เปิดเมนูอาหารที่ต้องกิน-ห้ามกินมีประเภทไหนบ้าง เพราะอะไร เช็คที่นี่

02 มิ.ย. 2566 | 02:56 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มิ.ย. 2566 | 02:56 น.

เปิดเมนูอาหารที่ต้องกิน-ห้ามกินมีประเภทไหนบ้าง เพราะอะไร เช็คที่นี่มีคำตอบ หมอธีระวัฒน์ชี้อาหารหากเลือกได้ดีสามารถป้องกันหรือชะลอโรคที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่มีอาการ หรือแม้มีอาการแล้ว

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสเฟซบุก๊ส่วนตัว (ธีระวัฒน์เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha) โดยมีข้อความระบุถึงการกินอาหารช่วยชีวิตว่า

ชนิดและประเภทและปริมาณของอาหารได้รับการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากการติดตามทางระบาดวิทยา ในคนต่างเชื้อชาติ ต่างฐานะ และรวมทั้ง การศึกษาทางกลไกในการปรับร่างกายให้ดีสามารถป้องกันหรือชะลอโรคที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วแต่ไม่มีอาการ หรือแม้มีอาการแล้วก็ตาม

หมอธีระวัฒน์ บอกว่า ผู้ที่ชอบทานไข่และเนื้อถ้าสุขภาพแข็งแรงจริงไม่มีโรคใดแฝง และทานผักผลไม้กากไยมหาศาลไปด้วย นั่นคือวันละครึ่งกิโลกรัม อัตราส่วนผักผลไม้ = สองต่อหนึ่ง ย่อมทานได้ระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ในปี 2556 ถือเป็นปีทองในการได้หลักฐาน ข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ความสำคัญของชนิดของอาหารที่กิน กลไก กระบวนการในการขจัดพิษ ในการเกิดสารดีมีประโยชน์ที่ช่วยปกป้องร่างกายและสมอง มีผลทั้งป้องกันโรคตั้งแต่ยังไม่เกิด และชะลอโรคไม่ให้ลุกลามต่อไป 

ที่สำคัญคือช่วยได้แม้มะเร็ง และโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมียารักษาหรือชะลอได้ แต่ไม่ถึงกับชะงัด และยาที่ใช้มากมายขณะนี้ เป็นการรักษาตามอาการ และยามีผลข้างเคียง ทานมากไป ยังเร่งให้โรคไปเร็วขึ้น ตายเร็วขึ้นไปอีก

สำหรับอาหารที่ต้องกินและห้ามกินหรือกินอย่างพอประมาณต่อไปนี้ ถือว่าควรเริ่มแต่เด็ก เพราะโรคมีการเพาะบ่มยาวนาน นับสิบปี 

การที่เกิดมะเร็ง มีอาการของโรคหัวใจ สมอง อัมพฤกษ์ ณ นาทีนี้ เป็นผลพวงของการสะสมความร้ายกาจมานาน รักษาอย่างไรก็ไม่ดีเท่ากับป้องกัน

  • กินผลไม้ ผัก รวมกากไย ห้ามคั้นเอาแต่น้ำและเอากากทิ้ง กากเป็นตัวสำคัญในการช่วยชีวิตที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำไส้ให้เป็นกลุ่มดี ผลิตของดี ขจัดของเสีย ฉะนั้นท้องผูกเป็นข้อเสีย แต่การดีท็อกซ์ล้างลำไส้มากเกินไป แม้ช่วยท้องผูก แต่ก็จะไม่เหลือจุลินทรีย์ที่ดีไปด้วย แต่ทำได้เป็นครั้งคราว
  • ห้ามกินน้ำอัดลม น้ำผลไม้กล่อง ขวด กระป๋อง ชาเขียว ขาว ซึ่ง ต้องดูให้ดีอาจมี น้ำตาลแฝง เช่น ฟลุคโตส แต่ชาที่ต้มชงเอง โดยเฉพาะชาเขียว ชาดำ ชาแดง ยิ่งดีใหญ่ กาแฟก็กินได้ ทั้งที่มีและไม่มี คาฟีอีน
  • น้ำผลไม้คั้นที่ไร้กากไย มีน้ำตาลซึ่งกระตุ้นสมองส่วนเสพติด ก่อให้เกิดความสุข กินแล้วได้แต่อ้วน และสมองฝ่อเร็ว
  • ลด งด ของหวาน มัน เครื่องใน เลือด หนังเป็ด ไก่ หมูทำให้อ้วน มีไขมันและเป็นบ่อเกิดของโรคนานาชนิด คนอ้วนมีอัตราการฝ่อของสมองเร็วอย่างน่าใจหาย โดยเฉพาะคนที่มีพันธุกรรมอัลไซเมอร์ ทั้งนี้พบแล้วว่าเด็กที่มีพันธุกรรมส่งเสริมจะมีสมองผิดปกติจากการศึกษาด้วยคอมพิวเตอร์สมองแบบพิเศษตั้งแต่อายุ 4 เดือนเป็นต้นไป
  • ของมัน หวานทำให้การระบายสารพิษอัลไซเมอร์ พาร์กินสันจากเนี้อสมองหยุดชะงัก ทั้งนี้โดยต้องระบายลงท่อน้ำรอบเส้นเลือด ที่หล่อเลี้ยงสมอง ไปทิ้ง
  • การกินของหวาน มันยังทำให้เส้นเลือดผิดปกติ ท่อระบายน้ำและสารพิษเสียหาย ในทางตรงกันข้ามการกินผัก ผลไม้และกากไย จะเร่งกระบวนการขับสารพิษออกจากสมองได้ยอดเยี่ยมและเส้นเลือดปลอดโปล่งโล่งสะดวก
  • ลดแป้ง รวมมันเทศ มันฝรั่ง มันสำปะหลัง ซึ่งถูกย่อยและดูดซึมง่าย รวดเร็ว ก่อให้เกิดการไหลหลั่ง ทะลักของฮอร์โมนอินซูลินในกระแสเลือด เกิดภาวะดื้ออินซูลิน แม้ไม่เป็นเบาหวาน แต่เหนี่ยวนำการดื้ออินซูลินในสมองเกิดสมองเสื่อมนานาชนิด และแป้งกลับเป็นตัวสำคัญที่บั่นทอนสุขภาพถ้ากินแป้งเป็นหลัก 
  • งด ลด สัตว์บก เนื้อแดง เนื้อวัว ทั้งที่ผ่านการปรุงแต่งและไม่ปรุงแต่ง (processed และ unprocessed ) เพราะแม้จะไม่ได้ทำให้ไขมันขึ้นมาก แต่มี แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) ถูกปรับเปลี่ยนโดยจุลินทรีย์ในลำไส้เกิดสารพิษ ทำลายเส้นเลือด เช่นเดียวกับไข่แดง ไม่ว่าจะเป็นไข่ดาว ไข่เจียว หรือที่อยู่ในขนมเค้ก คุกกี้ มีเลซิติน (Lecithin) ถูกเปลี่ยนเป็นสารพิษ TMA TMAO เช่นกัน 
  • กินปลา สัตว์น้ำ แทนที่เดินบนบก โดยพอเริ่มเป็นหนุ่ม สาว ควรลดไข่แดงเหลือ 2 ฟอง ต่อวัน หรือถ้าเริ่มมีความอ้วนลงพุงก็เหลือสองฟองต่ออาทิตย์ ยกเว้นถ้าเข้าใกล้มังสวิรัติรสแป้งแล้วอาจทานไข่แดงได้เพิ่มขึ้น ไข่ขาวทานได้ ทั้งนี้เป็นตัวอธิบายตอกย้ำว่าทำไมคนที่ไขมันในเลือดไม่สูงยังตายได้จากโรคเส้นเลือดตันในหัวใจ ในสมอง ถ้ายังกินไข่ กินเนื้ออยู่ ฉะนั้นหนัก ปลา  ไก่พอได้ หมูทานน้อยลง หรือเลิกสัตว์บกเลย
  • ส่งเสริมการกินพริกหวานพริกหยวก รวมพริกขี้หนู มีสารในกลุ่มนิโคติน ป้องกันและชะลอโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน
  • กินถั่วที่มีเปลือกช่วยชีวิตได้ ตั้งแต่ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เชสนัท วอลล์นัท อัลมอนด์ และอื่นๆ แต่ไม่ใช่อบเนย เกลือเยอะกลับตายเร็วขึ้น
  • น้ำมันมะกอก (Extravirgin olive oil) กินกับสลัด (ไม่ใช่เอามาผัดกับข้าว) 4 ช้อนโต๊ะต่อวัน เอามาใส่ข้าวต้มโรยกระเทียมเจียวก็รสชาติใช้ได้หรือใส่ในกาแฟต้ม (ความรูัจากน้องพยาบาล สำนักอนามัย กทม)
  • งด ลด กะทิ มะพร้าว เข้าข่ายของมัน ยั้งๆไว้ก่อน
  • เรื่องน้ำมันมะพร้าวบีบเย็น  ที่เชื่อว่าช่วยโรคอัลไซเมอร์ ต้องมีการเลือกส่วนประกอบพิเศษ กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง  (caprylic acid) ที่สมองจะเอาไปเป็นอาหาร อีกทางนอกจากกลูโคส ไม่งั้นจะได้แต่ไขมัน และอ้วน
  • กาแฟที่มีคาฟีอิน และช็อกโกแล็ตดำ (dark chocolate) ที่มีโกโก้ 70% ขึ้นไปช่วยหัวสมองจดเท้า
  • งดบุหรี่เด็ดขาดวันนี้ เดี๋ยวนี้ อาหารสุขภาพ ยา ยังไงๆต้านพิษบุหรี่ไม่อยู่  
  • ดื่มไวน์ เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ เบียร์ เช่น ลาเกอร์ สม่ำเสมอ อย่างส่งเสริมสุขภาพ ชาย 2 หญิง 1 แก้วต่อวัน (มากกว่านี้ตัวใครตัวมัน)

สุดท้ายต้องผอม กลไกผ่านยีนยืดชีวิต ชะลอโรค sirtuin และ TOR โดยการทานแบบพระท่านฉัน ช่วงเช้า 6 ชั่วโมง ด้วยอาหารสุขภาพดังข้างต้น และงดหลังจากนั้น 18 ชั่วโมง ซึ่ง ในช่วงเวลานั้น เรายังสามารถกินผลไม้ถั่วได้

เป็น IF (intermittent fasting) แบบ early eater ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าดีกว่า IF ที่กินช่วงบ่ายเย็นกลางคืน (late eater)

เดินตากแดด วันละ 10,000 ก้าว

แดดมีประโยชน์มหาศาลและไม่ได้เสริมสร้างวิตามินดีอย่างเดียวผิวหนังสร้าง ฮอร์โมนเชื่อมโยงระบบป้องกันภัย ทั้งที่เกี่ยวกับโรคติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ

หมอธีระวัฒน์ ย้ำว่า การเอาแต่คิดว่าเป็นแล้วค่อยรักษา คือทางหายนะต่อตนเอง ครอบครัว และผู้อื่น และทำให้ระบบสาธารณสุขบัตรทองเราเสียหาย ไม่มีอะไรดีกว่าการป้องกัน