วัคซีนต้านโควิด ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
โดยปัจจุยันได้มีการพัฒนาวัคซีนโควิดมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้น
ล่าสุดรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ โดยมีข้อความระบุถึงปัญหาของระบบการแพทย์ไทย ว่า
อัพเดทวัคซีนโควิด-19
หมอธีระบอกว่า US FDA ได้มีการประชุมคณะกรรมการวิชาการ (Vaccines and Related Biological Products Advisory Committee: VRBPAC) เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับการวางแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชน
ข้อมูลสำคัญได้รับการนำเสนอ โดยสรุปได้ดังนี้
วัคซีนเข็มกระตุ้นที่เป็น Bivalent vaccine ซึ่งใช้สายพันธุ์ BA.5 นั้น แม้จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันและป้องกันได้ดีในช่วงที่มีการระบาดของสายพันธุ์ BA.5 และ BQ.1 แต่ระดับการป้องกันจะลดลงเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นช่วงการระบาดของ XBB เป็นต้นมา
ทั้งนี้ XBB นั้นเป็นสายพันธุ์ย่อยที่เกิดขึ้นจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่าง BA.2.10.1 และ BA.2.75 โดยที่ปัจจุบันก็มีการกลายพันธุ์แตกหน่อต่อยอดไปอย่างต่อเนื่อง
ผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันในปัจจุบัน ชี้ชัดว่า การใช้วัคซีนที่ตรงกับสายพันธุ์ XBB จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดต่อสายพันธุ์ XBB.1.5 และ XBB.1.16 ได้สูงขึ้นมาก โดยภูมิคุ้มกันต่อ XBB.1.5 จะขึ้นได้สูงกว่า XBB.1.16
ดังนั้นจึงมีการวางแผนให้มีการใช้วัคซีนแบบ Monovalent ที่จำเพาะต่อสายพันธุ์ XBB สำหรับประชาชนตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้เป็นต้นไป โดยจะไม่ได้ใช้วัคซีนประเภทที่มีสายพันธุ์ดั้งเดิมแล้ว
สำหรับประเทศไทย ยังมีการติดเชื้อกันมาก
ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก