จากกรณีที่มีข่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมประกาศว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาล "แอสปาแตม (Aspartame)" เป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็งได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มแบบไม่มีน้ำตาลหรือน้ำตาล 0% เพื่อต้องการควบคุมน้ำหนักไม่ให้ได้รับพลังงานจากน้ำตาลเพิ่มแต่ก็ยังติดได้รสชาติหวานอยู่
ล่าสุด กรมอนามัย โดยนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวอธิบายไขข้อข้องใจเพื่อสร้างความเข้าใจและให้ความรู้เกี่ยวกับ "ประโยชน์และโทษของการรับประทานน้ำตาล" ไว้ดังนี้
"น้ำตาล" จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง เป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน
1. น้ำตาลธรรมชาติ (Sugar)
ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบขึ้นกับวัตถุดิบและกรรมวิธีที่ผลิตทั้งน้ำตาลทราย น้ำตาลกรวด น้ำตาลโตนด น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ และ น้ำเชื่อม เป็นต้น
2. น้ำตาลเทียม (Artificial Sweeteners)
เป็นสารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแต่งเติมรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลธรรมชาติ มีทั้งแบบที่ให้พลังงานและไม่ให้พลังงาน นิยมใช้ในผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและพลังงาน เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก โดยสารให้ความหวานที่นิยมใช้กัน ได้แก่
น้ำตาลมีประโยชน์หากบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม
น้ำตาลธรรมชาติและน้ำตาลเทียม ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม หากกินในปริมาณที่มากเกินไปก็จะส่งผลกระทบกับร่างกายได้
บริโภค "น้ำตาลธรรมชาติ" มากเกินไป
บริโภค "น้ำตาลเทียม" เป็นประจำ
สำหรับเด็กต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะกินอาหารและเครื่องดื่มในปริมาณมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่แนะนำต่อน้ำหนักตัว
คำแนะนำ
American Diabetes Association (ADA) ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สารให้ความหวานโดยไม่แนะนำให้ใช้ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ส่วนหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรใช้ได้ในปริมาณที่น้อยที่สุดหรือจำกัดการใช้
อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยพบว่า แม้สารให้ความหวานจะมีแคลอรีต่ำ แต่ส่งผลให้เราน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้เพราะกระตุ้นให้เกิดการผลิตเซลล์ไขมันมากขึ้น ดังนั้น หากร่างกายต้องการความหวาน ควรกินน้ำตาลแต่พอดี คือ ไม่ควรกินเกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ร่างกายได้รับต่อวัน
ควรจำกัดการกินสารให้ความหวานแทนน้ำตาล อย่างแอสปาร์แทม ซูคราโลส อะเซซัลเฟมเค และแซลคาริน โดยเลือกกินน้ำตาลจากธรรมชาติหรือน้ำตาลจากผลไม้สดเพราะมีประโยชน์และให้คุณค่าทางโภชนาการที่หลากหลาย อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหาร และไฟโตนิวเทรียนท์
ทั้งนี้ แม้ว่าน้ำตาลในผลไม้จะมีคุณค่าต่อร่างกายแต่ไม่ควรรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัดมากเกินไป ควรออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีและเลือกผลไม้หวานน้อย เช่น