"โรคตาแดง" เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยและมีการระบาดในช่วงฤดูฝนแต่เป็นโรคที่เราก็สามารถดูแลป้องกันได้ด้วยการรับประทานให้ครบ 5 หมู่โดยเน้นการรับประทานผักและผลไม้เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้กับร่างกายในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง
นพ.ไพโรจน์ สุรัชวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ แนะนำว่า ช่วงหน้าฝนนี้ควรดูแลสุขภาพตนเองอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสภาพและมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้
การดูแลสุขภาพเบื้องต้นนอกจากดูแลตัวเองจากภายนอก ไม่ว่าจะอยู่ในวัยไหนก็ต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และเน้นการรับประทานผักและผลไม้เพราะสารอาหารที่รับประทานเข้าไปมีส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงและรับมือกับโรคในช่วงหน้าฝนนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้าน นพ.อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า ช่วงหน้าฝนที่มีสภาพอากาศอับชื้นและเย็นลงซึ่งเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค
หากเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทานไม่แข็งแรง เข้าหน้าฝนอาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็มาเยือน ไม่เพียงแต่เสี่ยงกับโรคระบบทางเดินหายใจ หรือ โรคทางผิวหนัง ดวงตาก็มีความเสี่ยงเช่นกัน โดยเฉพาะ "โรคตาแดง" ระบาดได้บ่อย
เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลหน้าฝนโรคตาแดง มักระบาดในหน้าฝนเพราะเมื่อฝนตก น้ำฝนจะไปชะล้างฝุ่นละอองที่อยู่ตามอาคาร หลังคา ตามรั้วต่าง ๆ และอาจกระเด็นมาสู่ตาเราได้ซึ่งน้ำที่ท่วมขังก็อาจจะมีเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย
เมื่อน้ำที่สกปรกนั้นกระเด็นเข้าตาเราก็จะเกิดการติดเชื้อไปอย่างรวดเร็ว อาการรุนแรงที่สุดจะมีอาการอักเสบ เคืองตาอย่างรุนแรง ตามัว หากมีปัญหากับดวงตาหรือมีอาการผิดปกติควรพบจักษุแพทย์
นพ.เอกชัย อารยางกูร จักษุแพทย์ รองผู้อำนวยการด้านจักษุวิทยา กล่าวเสริมว่า การดูแลสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเรื่องสุขภาพดวงตาก็ต้องการการดูแลเช่นกัน ในช่วงหน้าฝนที่มาถึง ดวงตาก็มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อได้
โดยเฉพาะ "โรคตาแดง" ที่ระบาดได้บ่อยครั้งเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลนี้อาการของโรคตาแดงหากเราได้รับเชื้อโรคต่าง ๆ จนทำให้เป็นโรคตาแดง
อาการของ "โรคตาแดง"
อาการต่าง ๆ จะเกิดได้ภายใน 1-3 วัน และระยะการติดต่อไปยังผู้อื่นประมาณ 14 วัน โดยแบ่งอาการได้ เริ่มจากตาขาวมีสีแดงเรื่อ ๆ ระคายเคือง แสบตา น้ำตาไหล มีขี้ตามากกว่าปกติ เช่น
สาเหตุการเกิดโรคตาแดง
-เกิดจากน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือ นำมือที่เปื้อนสิ่งสกปรกไปสัมผัสโดนดวงตา
-กรณีติดเชื้อไวรัส โดยหนังตาจะบวม น้ำตาไหลมาก ต่อมน้ำเหลืองบริเวณกกหูบวม ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ตาแพ้แสง
-กรณีติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีขี้ตาสีเขียว หรือสีเหลือง มีน้ำตาไหล ตาแฉะ มองเห็นไม่ชัดและหากเกิดจากการแพ้จะรู้สึกคันตา แสบตา มีน้ำตาไหล
วิธีการป้องกันโรคตาแดง
1.ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย งดใช้ของร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ
2.ควรป้องกันและหลีกเลี่ยงฝุ่นละออง หรือน้ำสกปรกเข้าตา รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการว่ายน้ำในระยะการระบาดของโรคตาแดง หมั่นดูแลรักษาความสะอาด ล้างมือให้สะอาด
3.เลี่ยงการเอามือไปสัมผัสดวงตาบ่อย ๆ
4.ไม่อยู่ในพื้นที่แออัด เช่น รถสาธารณะ เป็นต้น หากจำเป็นควรสวมแว่นกันแดด กันฝุ่น กันลมช่วย
5.ควรระวังไม่ให้แมลง หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าตา
การรักษาโรคตาแดง
หากมีอาการตาแดงควรพักผ่อนหรือลาหยุดงานจนกว่าจะหายเพื่อลดการระบาดของโรค และสามารถใช้น้ำตาเทียมช่วยหากมีอาการระคายเคืองตามากควรพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาต่อไป