นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมความงาม “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” (Masterpiece Hospital) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปีนี้ ตลาดศัลยกรรมหรือความงามโดยภาพรวมเติบโตประมาณ 20 - 30% โดยเทรนด์การทำศัลยกรรมส่วนใหญ่เป็นการทำหัตถการบนใบหน้า
โดยเฉพาะการศัลยกรรมจมูกยังเป็นแชมป์ ตามมาด้วย ดวงตาและยกคิ้ว Foxy eyes ขณะที่การศัลยกรรมบริเวณหน้าอกและกลุ่ม Body เช่น ดูดไขมัน กระชับสัดส่วนเติบโตไม่หวือหวา สิ่งที่น่ากังวลของอุตสาหกรรมธุรกิจความงามปีนี้ยังคงเป็นเรื่องของ “สงครามราคา” ซึ่งส่งผลกระทบต่อ ธุรกิจของ “MASTER” เพียงเล็กน้อยเพราะมีข้อได้เปรียบจากการเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และมีวอลลุ่มมาก
“เราเชื่อว่าเราจะเป็น Last Man Standing เพราะยังสามารถทำกำไรได้ ซึ่งปีนี้ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาเรายังมีการเติบโตที่ดี โดยในไตรมาส 2/2566 มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล จำนวน 459.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 81.51 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้มีรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาล จำนวน 894.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.73% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 153.05 ล้านบาท”
ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ MASTER มีโอกาสร่วมทุนกับพันธมิตรรายใหม่อย่างน้อยอีก 3 ราย ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนให้ MASTER เติบโตอย่างยั่งยืนแน่นอน โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าไปลงทุน 40% ในกิจการคลินิกเสริมความงาม ภายใต้ชื่อ “WIND Clinic” รวมถึงลงทุนใน “Rattinan Medical Center” ถือหุ้นสัดส่วนไม่เกิน 36% และบริษัท ด็อกเตอร์เชน เซอร์เจอรี่ ฮอสพิทอล จำกัด เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน 40%
“MASTER ในปีนี้เราการลงทุนในคลินิกเสริมความงาม 3 แห่ง คือ WIND Clinic, Rattinan, ด็อกเตอร์เชน และ 1 ดีล มาร์เก็ตติ้ง โดยเข้าลงทุนในบริษัท KIN Corp. โดย 2 ดีลแรกคือ WIND Clinic อุบลราชธานีและ KIN Corp. จะสามารถรับรู้กำไรได้หลังจากการลงทุนก้อนที่ 2 แต่ในส่วนของ Rattinan และด็อกเตอร์เชน
คาดว่าจะจบดีลทั้งหมดภายในไตรมาส 1 ปีหน้า ทุกดีลเราลงทุนไม่เกิน 40% เแบ่งการลงทุนเป็น 2 ก้อน 50% แรกหลังจากที่เซ็นสัญญาก่อนที่จะต้องเข้าไปช่วยปรับปรุงระบบต่างๆให้สมบูรณ์ ก่อนที่จะลงทุนก้อนที่เหลือและเทคกำไรเข้ามา”
ผู้บริหารกล่าวต่อไปว่า ภาพของ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ” ในอีก 3 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนตัวเองเป็น Speciality Hospital ไม่ใช่แค่การทำศัลยกรรมอย่างเดียวแล้ว โดยเบื้องต้นได้วางโพชิชั่นนิ่งของ ด็อกเตอร์เชน เป็นคลินิกให้บริการในส่วนของการปรับโครงสร้างใบหน้าโดยเฉพาะ ในส่วนของ WIND Clinic จะมองไปที่การเป็น Cross Border เน้นกระจายสาขาตามต่างจังหวัดหัวเมืองโดยเชื่อมกับหมอที่เป็น Celebrity ของหัวเมืองนั้นๆ เพื่อปลั๊กอินและเพิ่มรายได้ได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ
และอีกฝั่งจะเป็นด้านของการตลาด ซึ่งโดยปัจจุบันต้องยอมรับว่าการเป็นผู้นำตลาดความงามจะมาจากฝั่งของการตลาดเป็นหลักโดยเฉพาะโซเชียลมีเดียและออนไลน์ MASTER จึงจำเป็นต้องมีการตลาดที่เปรียบเสมือนครัวกลางในการกระจายให้แต่ละพาร์ทเนอร์ ได้ใช้ know How แบบเดียวกัน
“แต่ละดีลเราใช้เม็ดเงินลงทุนมาก แต่ทุกธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุนมีประโยชน์ที่เอื้อซึ่งกันและกัน พาร์ทเนอร์ของเราเองได้ประโยชน์จากการที่เราเข้าไปเซ็ทระบบให้และเพิ่มโปรดักส์ใหม่ๆ ให้ด้วย และในส่วนของเราก็เป็นการขยายกลุ่มธุรกิจเพื่อทำตามโรดแมปที่วางไว้”
อย่างไรก็ตามในส่วนของการรับรู้รายได้และกำไรจากดีลใหม่ที่เกิดขึ้นคาดว่า ในส่วนของ WIND Clinic และ KIN Corp. จะรับรู้รายได้แค่ 3 เดือนสุดท้ายของไตรมาส 4 เท่านั้น ดังนั้นการเติบโตในส่วนของรายได้และกำไร ส่วนจะยังมาจาก MASTER 95% และอีก 5% จะมาจากWIND Clinic และ KIN Corp. และคาดว่าในภาพรวมบริษัททั้งปีน่าจะเติบโตประมาณ 20%-30% ขึ้นอยู่กับไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น หรือช่วงพีคของ MASTER
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,925 วันที่ 24 - 27 กันยายน พ.ศ. 2566