เช็คขั้นตอนสิทธิ "บัตรทอง" ใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" 

08 ม.ค. 2567 | 04:35 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ม.ค. 2567 | 04:36 น.

สปสช. คลายข้อสงสัย สิทธิบัตรทอง 30 บาท ใน 4 จังหวัด "แพร่ -ร้อยเอ็ด-เพชรบุรี-นราธิวาส" ใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ต้องทำอย่างไร รักษาที่ไหนได้บ้าง เช็คขั้นตอนพร้อมรายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่ 

"บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" นับเป็นหนึ่งในโครงการนโยบายเร่งด่วนยกระดับ สิทธิบัตรทอง 30 บาทซึ่งได้คิกออฟไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน

เบื้องต้นให้ประชาชนใน 4 จังหวัดนำร่องสามารถใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่" ได้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย 

  • จังหวัดร้อยเอ็ด 
  • จังหวัดแพร่  
  • จังหวัดเพชรบุรี 
  • จังหวัดนราธิวาส 

ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใน 4 จังหวัดดังกล่าว สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.ได้ชี้แจงขั้นตอนและวิธีการเข้ารับบริการสำหรับประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโดยสามารถเข้ารับบริการได้ตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ 

เมื่อมีอาการเจ็บป่วย สามารถใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ได้ที่หน่วยบริการทุกแห่งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่

1.โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง 

2.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 

3.สถานีอนามัย 

4.ศูนย์สุขภาพชุมชน 

5.สถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่ 

  • โรงพยาบาลเอกชน 
  • คลินิกที่ขึ้นทะเบียนในระบบบัตรทอง ทั้งคลินิกเวชกรรม คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกการแพทย์แผนไทย คลินิกทันตกรรม 
  • ร้านยา ที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเปิดให้ประชาชนจองคิวและนัดหมายวันเวลาในการรับบริการล่วงหน้าได้ผ่านระบบออนไลน์ โดยสามารถจองคิวทางแอปพลิเคชัน หรือ ไลน์ "หมอพร้อม" ได้  

เช็คขั้นตอนสิทธิ "บัตรทอง" ใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่"

ขั้นตอนการใช้บริการสิทธิบัตรทอง 30 บาท

1.ยื่นบัตรประชาชน กรณีเด็กเล็กใช้สูติบัตรพร้อมบัตรประชาชนผู้ปกครอง ยื่นต่อหน่วยบริการทุกแห่งที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

2.วอล์คอิน หรือ นัดจองคิวผ่านระบบออนไลน์ ผ่านแอปฯ/ไลน์ "หมอพร้อม" ไว้ได้ 

3.รักษาตามขั้นตอนของสถานที่ให้บริการที่เข้ารับบริการ

4.กรณีนัดจองคิวผ่านระบบออนไลน์ให้ ยืนยันตัวตนหลังรับบริการแล้วซึ่งระบบจะบันทึกประวัติการรับบริการโดยอัตโนมัติ 

กรณีที่ผู้ป่วยต้องรับยา หากเป็นโรงพยาบาลที่มีโครงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านหรือส่งยาทางไปรษณีย์ ก็สามารถเลือกรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านได้โดยติดต่อที่ห้องจ่ายยา 

ผู้ป่วยเดิม : กรณีมีนัดรับบริการกับทางหน่วยบริการอยู่แล้วให้เข้ารับบริการตามนัดหมายเช่นเดิม 

กรณีที่เกิดภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต (UCEP) สามารถใช้สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients) สามารถเข้ารับการรักษาใน รพ.ทุกแห่ง ทั้งรพ.ของรัฐและเอกชนที่ใกล้ที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤตหรือสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย โดยยื่นบัตรประชาชน ในกรณีเด็กให้ใช้สูติบัตร และแจ้งใช้สิทธิ UCEP

5.สิ้นสุดการรับบริการ 

การรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค อาทิ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค, คุมกำเนิด (ถุงยางอนามัย ยาคุม) , ฝากครรภ์ , คัดกรองมะเร็งปากมดลูก, คัดกรองเบาหวาน และตรวจวัดความดันโลหิต เป็นต้น 

แนะนำให้ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ได้ที่แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จากนั้นเลือก เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือก สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค เลือกสิทธิประโยชน์ที่ต้องการรับบริการ จองคิวนัดหมายวันเวลารับบริการล่วงหน้าได้ หรือโทรติดต่อได้ที่หน่วยบริการ หรือติดต่อด้วยตนเองได้ที่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว 

ช่องทางติดต่อสอบถามขั้นตอนการใช้บริการ

  • โทร.สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง 
  • จ.แพร่      โทร. 1330 กด 61
  • จ.ร้อยเอ็ด  โทร. 1330 กด 67
  • จ.เพชรบุรี  โทร. 1330 กด 65
  • จ.นราธิวาส โทร. 1330 กด 612

เช็คขั้นตอนสิทธิ "บัตรทอง" ใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่"