"บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" นับเป็นหนึ่งในโครงการนโยบายเร่งด่วนยกระดับ สิทธิบัตรทอง 30 บาทซึ่งได้คิกออฟไปแล้วเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน
เบื้องต้นให้ประชาชนใน 4 จังหวัดนำร่องสามารถใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่" ได้ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติใน 4 จังหวัดดังกล่าว สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. โดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.ได้ชี้แจงขั้นตอนและวิธีการเข้ารับบริการสำหรับประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาโดยสามารถเข้ารับบริการได้ตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
เมื่อมีอาการเจ็บป่วย สามารถใช้ "บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่" ได้ที่หน่วยบริการทุกแห่งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่
1.โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง
2.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
3.สถานีอนามัย
4.ศูนย์สุขภาพชุมชน
5.สถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แก่
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขเปิดให้ประชาชนจองคิวและนัดหมายวันเวลาในการรับบริการล่วงหน้าได้ผ่านระบบออนไลน์ โดยสามารถจองคิวทางแอปพลิเคชัน หรือ ไลน์ "หมอพร้อม" ได้
1.ยื่นบัตรประชาชน กรณีเด็กเล็กใช้สูติบัตรพร้อมบัตรประชาชนผู้ปกครอง ยื่นต่อหน่วยบริการทุกแห่งที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
2.วอล์คอิน หรือ นัดจองคิวผ่านระบบออนไลน์ ผ่านแอปฯ/ไลน์ "หมอพร้อม" ไว้ได้
3.รักษาตามขั้นตอนของสถานที่ให้บริการที่เข้ารับบริการ
4.กรณีนัดจองคิวผ่านระบบออนไลน์ให้ ยืนยันตัวตนหลังรับบริการแล้วซึ่งระบบจะบันทึกประวัติการรับบริการโดยอัตโนมัติ
กรณีที่ผู้ป่วยต้องรับยา หากเป็นโรงพยาบาลที่มีโครงการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านหรือส่งยาทางไปรษณีย์ ก็สามารถเลือกรับยาที่ร้านยาใกล้บ้านได้โดยติดต่อที่ห้องจ่ายยา
ผู้ป่วยเดิม : กรณีมีนัดรับบริการกับทางหน่วยบริการอยู่แล้วให้เข้ารับบริการตามนัดหมายเช่นเดิม
กรณีที่เกิดภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต (UCEP) สามารถใช้สิทธิ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติมีสิทธิทุกที่ (Universal Coverage for Emergency Patients) สามารถเข้ารับการรักษาใน รพ.ทุกแห่ง ทั้งรพ.ของรัฐและเอกชนที่ใกล้ที่สุดโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจนพ้นวิกฤตหรือสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย โดยยื่นบัตรประชาชน ในกรณีเด็กให้ใช้สูติบัตร และแจ้งใช้สิทธิ UCEP
5.สิ้นสุดการรับบริการ
การรับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค อาทิ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค, คุมกำเนิด (ถุงยางอนามัย ยาคุม) , ฝากครรภ์ , คัดกรองมะเร็งปากมดลูก, คัดกรองเบาหวาน และตรวจวัดความดันโลหิต เป็นต้น
แนะนำให้ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ได้ที่แอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จากนั้นเลือก เมนูกระเป๋าสุขภาพ เลือก สิทธิสุขภาพดีป้องกันโรค เลือกสิทธิประโยชน์ที่ต้องการรับบริการ จองคิวนัดหมายวันเวลารับบริการล่วงหน้าได้ หรือโทรติดต่อได้ที่หน่วยบริการ หรือติดต่อด้วยตนเองได้ที่หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทุกแห่ง ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว