จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการขยาย สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สิทธิบัตรทอง 30 บาท ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ โดยได้เริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 ที่ผ่านมานำร่องใน 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ ร้อยเอ็ด เพชรบุรี และนราธิวาส โดยผู้ป่วยสามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียวเพื่อเข้ารับการรักษาได้ (ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว) ที่หน่วยบริการทุกแห่งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ครอบคลุมทั้งโรงพยาบาลของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพฯ อีก 6 ประเภท
1.ร้านยา
2. คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์
3. คลินิกเวชกรรม
4. คลินิกทันตกรรม
5. คลินิกการแพทย์แผนไทย
6. คลินิกเทคนิคการแพทย์ ปัจจุบันมีหน่วยบริการเข้าร่วมแล้ว 451 แห่ง
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการเอกชน 4 จังหวัดบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ได้ที่เว็บไซต์ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
1.จังหวัดแพร่ พร้อมให้บริการ 59 หน่วยบริการ คลิกตรวจสอบรายชื่อได้ ที่นี่
2.จังหวัดเพชรบุรี พร้อมให้บริการ 53 หน่วยบริการ คลิกตรวจสอบรายชื่อได้ ที่นี่
3.จังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมให้บริการ 251 หน่วยบริการ คลิกตรวจสอบรายชื่อได้ ที่นี่
4.จังหวัดนราธิวาส พร้อมให้บริการ 88 หน่วยบริการ คลิกตรวจสอบรายชื่อได้ ที่นี่
1.ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว
-ยื่นแสดงตนต่อหน่วยบริการทุกแห่งที่ขึ้นทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทั้งการ Walk-in หรือ นัดคิวออนไลน์ผ่านแอป-ไลน์หมอพร้อม (กรณีเด็กเล็ก ใช้สูติบัตรพร้อมบัตรประชาชนผู้ปกครอง)
-รับการดูแลและรักษาตามขั้นตอนของแต่ละหน่วยบริการ เมื่อรับบริการเสร็จ ระบบจะบันทึกประวัติการรับบริการโดยอัตโนมัติ
-กรณีที่ผู้ป่วยต้องรับยา สามารถเลือกรับยาได้ 3 ช่องทาง
-กรณีผู้ป่วยเดิมหรือมีนัดรับบริการกับทางหน่วยบริการอยู่แล้ว
ให้เข้ารับบริการ ณ จุดที่นัดหมายได้เลย (ไม่ต้องทำการตรวจสอบสิทธิและยืนยันตัวตนก่อนเข้ารับบริการ และเปลี่ยนเป็น "การยืนยันตัวตนหลังรับบริการ" เมื่อผู้ป่วยรับบริการสิ้นสุดแล้วโดยสามารถยืนยันตัวตนที่จุดนั้นได้เลย
-กรณีที่เกิดภาวะเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติถึงแก่ชีวิต
สามารถใช้สิทธิ UCEP (Universal Coverage for Emergency Patients) เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ ซึ่งเป็นสิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐบาลเพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตถึงแก่ชีวิตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นรัฐหรือเอกชนที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จนพ้นวิกฤตหรือสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย โดยยื่นบัตรประชาชน และแจ้งใช้สิทธิ UCEP