8 พฤษภาคม 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นั่งหัวโต๊ะประชุมนัดแรกกับคณะผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ณ ห้องประชุมชัยนาทเรนทร อาคาร 1 ชั้น 2 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข แถลงยืนยันแนวการทำงานของกระทรวงสาธารณสุขว่า นโยบายอะไรประหยัดที่ทำแล้วได้ผลดี ทำให้ประชาชนไม่เจ็บไข้ได้ป่วยหรือว่า เจ็บไข้ได้ป่วยน้อยและใช้งบประมาณอย่างประหยัดก็ให้ดำเนินการ
พร้อมทั้งเน้นย้ำการลงทุนในภาคอุตสาหากรรมการแพทย์ให้สนับสนุนภาคเอกชนหรือในส่วนของรัฐก็ให้ดำเนินการ อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์และยารักษาโรค ให้เชิญชวนคนมาลงทุนในประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมาย ยังไม่มีเครื่องมือหรือส่งเสริมให้ชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ก็ต้องทำ เหล่านี้หากทำแล้วผมมั่นใจว่า นโยบายของรัฐบาลภาพรวมของการใช้จ่ายงบประมาณนั้นไม่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้สิ่งที่ได้มีการพูดคุยและเน้นย้ำในที่ประชุม คือ เรื่องของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่และการบำบัดยาเสพติดโดยการบำบัดนั้นเกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายยาเสพติด คือการดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ครอบคลุมถึงเรื่องของการป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู บูรณาการทุกหน่วยงาน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการยึดทรัพย์
รวมถึงการต้องมีตัวชี้วัดอื่น ๆ กรณีถ้าสมัครใจรับการบำบัดแล้วหนีหายไปหลังรับการบำบัดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งมีกฎหมายมีกำหนดไว้ชัดเจนแต่ที่ผ่านมาไม่ได้มีการบังคับใช้ ทั้งนี้ จากข้อมูลระบุว่า ผู้ที่ได้รับการบำบัดยาเสพติดแล้วหนีหลังได้รับการบำบัดมีประมาณ 20%
นายสมศักดิ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการครอบครองยาบ้าโดยยืนยันว่า หากยึดตามเจตนารมย์ของกฎหมายนั้นระบุว่า กรณีการครอบครองยาบ้า 1 เม็ดก็มีความผิด คนเสพก็มีความผิดต้องโทษจำคุก
อย่างไรก็ดี ต้องดำเนินการให้เป็นแนวทางตามกฎหมายที่ชัดเจน ทั้งนี้ ยืนยันว่า เบื้องต้นต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้แต่จะมีปริมาณเท่าไรนั้นต้องมีการพิจารณาต่อไป
เช่นเดียวกับกรณีของ กัญชา ที่จะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งมี 6 ด้านที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย การป้องกัน การปราบปราบ การฟื้นฟู การบูรณาการทุกหน่วยงาน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการยึดทรัพย์
เหล่านี้ คือ สิ่งที่กำลังทำงานกันอยู่ในเรื่องของกัญชานั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แนวทางต้องเปลี่ยนไปแต่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรนั้นต้องมีการพิจารณากันอีกครั้งซึ่งต้องทำงานร่วมกันของ 5 กระทรวงหลักที่เกี่ยวข้อง
รวมถึงอาจจะต้องมีการรับฟังเสียงของประชาชนด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็ว ๆ นี้แน่นอนตั้งเป้าแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน อย่างไรก็ดี การแก้กฎหมายนั้นตามกระบวนการในการแก้กฎหมายต่าง ๆ นั้นต้องใช้เวลาในการดำเนินการ