ตามที่ได้เกิดภาวะน้ำทะเลหนุนถึงจุดรับน้ำดิบเข้าคลองประปาของการประปานครหลวง (กปน.) บริเวณสถานีสูบน้ำดิบสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี และได้ส่งผลให้น้ำประปามีรสชาติเปลี่ยนแปลงในบางช่วงเวลาในบางพื้นที่ของ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ที่อยู่บริเวณฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งความเค็มในรูปคลอไรด์เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือโซเดียมเกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร มีปริมาณสูงกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่มีผลต่อความน่าดื่มของผู้บริโภคช่วงวันที่ 9-15 พ.ค.2567 นั้น
ล่าสุด นายรักษ์ศักดิ์ สุริยหาร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กปน. เปิดเผยว่า กปน.ขอแนะนำแนวทางการใช้น้ำประปาในช่วงภัยแล้งสำหรับประชาชน ตามคำแนะนำของกรมอนามัย ดังนี้
ผู้ที่มีสุขภาพปกติ
สามารถบริโภคน้ำประปาได้ โดยยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ด้วยรสชาติที่เปลี่ยนไปอาจส่งผลต่อความน่าดื่ม ทั้งนี้ ความเค็มในรูปของโซเดียมในน้ำประปา ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณโซเดียมในอาหารทั่วไปที่บริโภคในชีวิตประจำวัน
การใช้น้ำประปาเพื่อปรุงอาหารในช่วงเวลานี้ ควรลดการเติมเครื่องปรุงรสให้น้อยลง
กลุ่มเสี่ยงที่ควรหลีกเลี่ยงการบริโภค
คำแนะนำเพื่อเป็นทางเลือก
สำหรับสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องจนกว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝน หรือประมาณสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม 2567 โดยลูกค้าสามารถติดตามคุณภาพน้ำประปารายวันได้ ผ่านช่องทางการติดต่อออนไลน์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง Facebook / Line / X และ Instagram : @MWAthailand และสามารถติดตามค่าคุณภาพน้ำต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ได้ทาง http://twqonline.mwa.co.th และแอปพลิเคชัน MWA onMobile