“กัลเดอร์มา” เปิดเวทีเทรนด์ความงาม 2024 ขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกยุคใหม่

18 มิ.ย. 2567 | 16:23 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มิ.ย. 2567 | 00:54 น.

“กัลเดอร์มา” ผู้นำนวัตกรรมด้านความงามของโลก จัดสัมมนาเปิดเวทีอัปเดตเทรนด์ความงาม 2024 พร้อมแชร์กลยุทธ์เสริมความรู้ เพิ่มขีดความสามารถ สร้างการเติบโตทางธุรกิจในยุค Marketing 6.0

ภก. พิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงามประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันค่านิยมเรื่องความงามเปิดกว้าง ผู้บริโภคยุคใหม่โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง, ผู้ชาย,LGBTQIA+ ทั้ง Gen Y และ Gen Z หันมาดูแลสุขภาพผิวและความงามกันมากขึ้น รวมทั้งให้ความสนใจหัตถการความงามที่ช่วยรักษา ดูแล และเสริมความงามผิวควบคู่กันไป ซึ่งคาดการณ์ว่าธุรกิจเวชศาสตร์ความงามของไทยในช่วงปี 2565-2573 จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 9.7% ต่อปี ดังนั้น เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจคลินิกความงามของไทย กัลเดอร์มาจึงจัดงาน “GAIN Business Forum 2024“ สัมมนาอัปเดตความรู้ด้านการตลาดดิจิทัลและเทรนด์ความงามที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจคลินิกความงาม เพื่อกระตุ้นและผลักดันให้เจ้าของคลินิกและนักการตลาดในธุรกิจนี้ พัฒนาศักยภาพธุรกิจให้พร้อมรับมือกับการแข่งขัน พร้อมก้าวให้ทันเทรนด์ความงามเทรนด์ตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างยั่งยืน

“บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อว่าพันธมิตรคลินิกความงามจะสามารถนำเทรนด์ ความรู้ และเครื่องมือการตลาดต่าง ๆ ไปเพิ่มศักยภาพการทำการตลาดได้อย่างรอบด้าน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะเดินหน้าส่งเสริมความรู้ทั้งด้านการตลาดและความงาม พร้อมมุ่งยกระดับองค์ความรู้ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้พันธมิตรคลินิกและบุคลากรทางการแพทย์ด้านความงามของไทยเติบโตไปพร้อมกับเราอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เราจะเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมความงามด้วยการผสานเทคโนโลยีและวิทยาการระดับโลกของกัลเดอร์มา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านความงามที่ตอบทุกเรื่องราวของผิวในแต่ละบุคคลได้อย่างครบถ้วน”

ผศ. ดร. เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด และประธานหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในปี 2567 ได้ก้าวสู่ยุค Marketing 6.0 อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นการทำการตลาดจะต้องเปลี่ยนไป นักการตลาดต้องเปลี่ยนเลนส์ในการมองให้แตกต่างและหลากหลายขึ้น เพื่อให้เข้าใจมุมมองผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะ Gen Z เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในยุคนี้ และเริ่มหันมาทำสิ่งที่ไม่เคยรู้ ให้เป็นสิ่งที่รู้ตามแนวคิด Unknown Unknowns พร้อมปรับวิธีและช่องทางสร้างประสบการณ์ให้เหมาะกับผู้บริโภคยุค 6.0 โดยยินดีที่จะมีประสบการณ์แบบ Immersive ดื่มด่ำและหลอมรวมประสบการณ์ในโลกจริงและโลกเสมือนไปพร้อมกัน 

“กัลเดอร์มา” เปิดเวทีเทรนด์ความงาม 2024 ขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกยุคใหม่

ตัวอย่างเช่น ลูกค้าเดินไปดูสินค้าที่หน้าร้าน ทดลองสินค้าด้วย AR/VR โดยไม่ต้องใช้จริง สั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ และชำระเงินหน้าร้าน ซึ่งจะเห็นว่านำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานในการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภค ดังนั้นเลนส์ที่นักการตลาดใช้จะต้องแยก 3 สิ่งนี้ให้ออก What’s Real? อะไรจริง อะไรเสมือน, What’s Right? อะไรถูกสำหรับกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม และ What’s Rule? อะไรคือกฎเกณฑ์ที่เหมาะในการใช้

โดยอัปเดตเทรนด์ความงามแห่งอนาคต มี 5 เครื่องมือที่ช่วยให้ทำการตลาดได้อย่างแตกต่าง ซึ่งเทรนด์ความงามแห่งอนาคตที่ธุรกิจคลินิกความงามต้องให้ความสำคัญ ประกอบด้วย 1) Proactive Beautyความงามที่มุ่งไปข้างหน้า 2) Canceling Age ความงามที่ปราศจากอายุ มีความเป็นกลาง 3) Expressionality ความสวยในแบบที่เป็นตัวเอง 4) Beauty Fandom แฟนดอมความสวย 5) Mindful Aesthetics ความงามแบบพอดี 6) Fast Aesthetics ความงามตามกระแส 

สำหรับ 5 เครื่องมือที่จะช่วยให้ธุรกิจความงามเข้าใจผู้บริโภคและมอบบริการที่ตอบเทรนด์เหล่านี้ได้ ประกอบด้วย

IoT: เครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยจับพฤติกรรมด้านความงามของผู้บริโภคแต่ละบุคคลในทุก ๆ วัน

AI: ตัวช่วยที่จะมาวิเคราะห์ดาต้าของผู้บริโภคแต่ละบุคคล รวมถึงกลุ่มแฟนคลับ แฟนดอมต่าง ๆ พร้อมนำมาช่วยให้คำแนะนำความงามเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น

3D Asset: เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างภาพเสมือนจริงให้ผู้บริโภคเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบเหมือนจริงก่อนทำหัตถการแต่ละประเภท

Blockchain: ตัวช่วยเสริมเรื่องการป้องกันข้อมูลรั่วไหล

AR/VR: เครื่องมือในการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ผสมผสานกับโลกความเป็นจริง

“กัลเดอร์มา” เปิดเวทีเทรนด์ความงาม 2024 ขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกยุคใหม่

“ความเข้าอกเข้าใจ เป็นปัจจัยความสำเร็จในการทำธุรกิจความงามในยุค Marketing 6.0 เราต้องเข้าใจความแตกต่างของลูกค้า เข้าใจเครื่องมือ และใช้เครื่องมือให้เป็น รู้จักเปลี่ยนเลนส์ในการมอง ปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ที่จะออกนอกกรอบ และสนุกกับการใช้เครื่องมือเข้ามาเสริมการทำการตลาด”

“กัลเดอร์มา” เปิดเวทีเทรนด์ความงาม 2024 ขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกยุคใหม่

นางกัญชลี สำลีรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์การใช้ Digital, Customer Data และ World class Technologyกล่าวว่า การทำตลาดในยุคดิจิทัลจะต้องมีการวางแผนทางการตลาดที่มีความแตกต่าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนได้อย่างตรงจุด โดยกุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างความต่างให้ธุรกิจคือBranding และ Experience ซึ่งกลยุทธ์ที่นำมาใช้สร้าง 2 สิ่งสำคัญนี้ ควรจะเริ่มต้นจากการวางกลยุทธ์สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยการโฟกัสกลุ่มเป้าหมายและตลาดให้ชัดเจน ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าแบรนด์ของเราจะเจาะไปที่Mass Market หรือ Niche Market พร้อมหาจุดแข็งของแบรนด์ เพื่อนำข้อได้เปรียบในการแข่งขันไปต่อยอดสร้าง Brand Positioning ด้วยกลยุทธ์ 5Ps ได้แก่ Product (สินค้า) Price (ราคา)Place (สถานที่/ช่องทางการจำหน่าย) Promotion (โปรโมชัน) และ People (ผู้คน) 

จากนั้นนำ Brand Positioning ไปสร้างประสบการณ์ที่เกินความคาดหมายให้กับลูกค้าในขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่ 1) Awareness สร้างการรับรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ พร้อมกระตุ้นลูกค้าด้วยจุดยืนที่แตกต่าง 2) Booking ทำความรู้จักและเก็บดาต้าของลูกค้า พร้อมนำดาต้าไปแบ่งประเภทลูกค้า เพื่อเลือกเจาะตลาดแต่ละกลุ่มได้ตรงจุด 3) Service ใช้ดาต้ามาสร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรก โน้มน้าวให้ลูกค้าสนใจใช้บริการ ปิดการขายให้ได้4) Loyalty รักษาลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์ ซึ่งแต่ละขั้นตอนสามารถนำดาต้ามาวิเคราะห์เพื่อเลือกใช้แพลตฟอร์มในการสื่อสารที่เหมาะกับลูกค้า รวมถึงต้องสร้างประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับลูกค้า เพื่อรักษาลูกค้าเดิมไว้กับแบรนด์”

“กัลเดอร์มา” เปิดเวทีเทรนด์ความงาม 2024 ขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกยุคใหม่

ด้าน นางสาววรัญญา คงดำเนิน LINE Certified Coach 2024 กล่าวว่า ความท้าทายที่ธุรกิจความงามต้องเผชิญ คือ การแข่งขันสูง ดึงดูดลูกค้าใหม่ยาก รักษาฐานลูกค้าเดิมไม่ได้ และไม่รู้วิธีนำข้อมูลของลูกค้าไปใช้ ฉะนั้นจึงต้องมีกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าระดับ High Value ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของคลินิกความงาม ด้วยB.E.A.U.T.Y. Framework ประกอบไปด้วย B-Build Target Audience สร้างและแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน, E-Engage สร้างคอนเทนต์ที่เข้าใจลูกค้า พร้อมแก้ปัญหาได้ตรงจุด, A-Acquireสร้างความแตกต่างเพื่อโน้มน้าวใจลูกค้า, U-Upsell ต่อยอดการขาย-ซื้อเพิ่ม-ซื้อซ้ำ, T-Track and Optimize วัดผล-ติดตามผล-ปรับปรุง และ Y-Your Customer เปลี่ยนลูกค้าขาจรเป็นขาประจำ และบอกต่อ โดยนักการตลาดและเจ้าของคลินิกสามารถนำ Framework นี้ไปใช้กับเครื่องมือการตลาดของ LINE เพื่อแก้ปัญหาของแต่ละคลินิกได้อย่างตรงจุด

“กัลเดอร์มา” เปิดเวทีเทรนด์ความงาม 2024 ขับเคลื่อนธุรกิจคลินิกยุคใหม่

นายพงศ์สุพัชร์ กาญจนาคม Strategic Partnerships Manager จาก TikTok กล่าวว่า ในกลุ่มผู้ใช้งาน TikTok ในไทย 3 อันดับแรก เป็นสายรักสวยรักงาม 34.3 ล้าน, สายใส่ใจสุขภาพ11.8 ล้าน และสายรักการออกกำลังกาย 6.1 ล้าน ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับการดูแลความสวยความงาม จึงเป็นโอกาสที่แบรนด์จะเจาะไปยังผู้บริโภค 3 กลุ่มนี้ โดยใช้การ Tie-in สินค้าไปกับคอนเทนต์ที่น่าสนใจในรูปแบบต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์รีวิวจากครีเอเตอร์, คอนเทนต์ให้ความรู้ โชว์ความเชี่ยวชาญ, คอนเทนต์สร้างการบอกต่อ และคอนเทนต์กระตุ้นการทดลองใช้

นอกจากนี้ ยังแนะนำเทคนิคดึงดูดลูกค้าด้วย G.R.O.W. Framework ที่ประกอบด้วย G-Generate สร้างคอนเทนต์ให้กลุ่มเป้าหมายมาชมผ่านเครื่องมือต่าง ๆ, R-Reach เพิ่มการเข้าถึงผ่านการทำงานควบคู่กับครีเอเตอร์ที่มีฐานแฟนคลับ, O-Optimize สร้างคอนเทนต์ที่ไปหากลุ่มเป้าหมายที่ต้องการด้วยตัวเราเอง และ W-Win ใช้ดาต้าดูผลลัพธ์เพื่อนำไปปรับการทำคอนเทนต์ หรือช่วงเวลาในการโพสต์ให้ดียิ่งขึ้น เมื่อมีแนวทางแล้วก็นำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น