จากการแถลงข่าวหน้าหนาวอุ่นใจ ปลอดภัย ห่างไกลโรค ที่มี พญ.จุไร วงค์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วย นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ช่วงปลายปีเป็นช่วงที่มีเทศกาลรวมตัวของผู้คน ทั้งงานทอดกฐิน งานลอยกระทง ฉลองคริสต์มาส ปีใหม่
อีกทั้งยังมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่เอื้อต่อการคงอยู่และแพร่กระจายของเชื้อ จึงเป็นช่วงที่โรคทางระบบทางเดินหายใจจะเพิ่มขึ้น โดยโรคทางระบบทางเดินหายใจที่ขอเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังในช่วงนี้
สำหรับสถานการณ์โควิด 19 นั้น ปัจจุบันสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดส่วนใหญ่ยังเป็น JN.1 แม้จะแพร่กระจายเพิ่มแต่ความรุนแรงไม่ได้เพิ่มขึ้นจึงยังมีโอกาสเกิดการระบาดเป็นกลุ่มก้อนได้ในพื้นที่ที่ผู้คนรวมตัวกันมาก เช่น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สถานศึกษา รวมถึงเรือนจำ โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 27 ต.ค. – 2 พ.ย. 2567 พบผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล 549 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยสะสมรวม 41,142 ราย
ส่วนโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ยังมีโรคไข้หวัดใหญ่ซึ่งตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมีแนวโน้มลดลงแต่ประมาทไม่ได้ เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวจะแพร่กระจายเชื้อมากขึ้น โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ คือ กลุ่มอายุ 5-9 ปี กลุ่มอายุ 0-4 ปี และกลุ่มอายุ 10-14 ปี ตามลำดับ ผู้ป่วยสะสมรวมอยู่ที่ 595,855 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 47 ราย
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป และมีโรคประจำตัว มีประวัติไม่ได้รับวัคซีน แม้การรณรงค์รับวัคซีนจะผ่านไปแล้วเมื่อช่วงเดือนกันยายนแต่หากอยู่กลุ่มโดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ยังสามารถรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้
รวมถึง โรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) ซึ่งพบผู้ป่วยรวม 7,076 ราย อัตราป่วย 10.71 ต่อประชากรแสนคน คิดเป็น 2.16 ของผู้ป่วยปอดอักเสบทั้งหมดโดยผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลมากถึง 3,275 ราย คิดเป็น 50.64 % ซึ่งมากกว่าโควิด-19 จึงขอเตือนประชาชนระวังทั้ง 3 โรค โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เป็นกลุ่มป่วยมากสุด กับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะที่มีโรคประจำตัวเป็นกลุ่มที่เมื่อป่วยแล้วอาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิต
แนวทางการป้องกัน เนื่องจากทั้ง 3 โรคเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเหมือนกัน การแพร่เชื้อจึงติดกันได้จากฝอยละอองน้ำมูล น้ำลายเช่นกัน จึงป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ กินอาหารปรุงสุกร้อนสะอาด ใช้ช้อนกลาง เมื่อป่วยให้เลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่มีคนรวมกลุ่มกันจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 โรคมีวัคซีนป้องกันจึงแนะนำกลุ่มเสี่ยงผู้สูงวัยมีโรคประจำตัวรับวัคซีนป้องกันทุกปี หากพบว่ามีอาการป่วยควรรีบพบแพทย์