นายคาลอส มอนเทียล รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ResMed Asia Pte. Ltd. ผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพการนอนและการหายใจ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ResMed คือบริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมสุขภาพการนอนและการหายใจ ดำเนินกิจการมานานกว่า 35 ปีมีสำนักงานอยู่ทั้งหมดกว่า 140 ประเทศทั่วโลก สำนักงานใหญ่อยู่ในออสเตรเลีย ส่วนในเอเชียจะมีสำนักงานอยู่ที่สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทยเป็นแห่งที่ 3 โดยการเลือกเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ในประเทศไทยเพราะข้อมูลด้านสุขภาพของคนไทยกว่า 70 ล้านคน พบว่าผู้ที่มีความเสี่ยงจากการนอนหลับและหยุดหายใจมากกว่า 10-40 ล้านคน และยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ตัว
ฉะนั้น หากบริษัทเปิดตัวสำนักงานในประเทศไทย จะสามารถให้ข้อมูล ให้ความรู้ เพื่อสร้าง Brand Awareness หรือการรับรู้แบรนด์ของลูกค้าได้มากขึ้น และทำงานร่วมกับพันธมิตรได้ใกล้ชิด ซึ่งเป็นคู่ค้าและคนขายสินค้าให้กับ ResMed ด้วยการนำเข้าไปจัดจำหน่ายในโรงพยาบาล ถือเป็นการทำการตลาดในอีกรูปแบบหนึ่ง
“ที่จริงเราเป็นผู้นำระดับโลกสำหรับจัดจำหน่ายเครื่อง CPAP โดยตั้งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา และเพิ่งสร้างออฟฟิศให้เป็นรูปร่างในปี 2567 นี้ ซึ่งในปัจจุบันการขายหรือจัดจำหน่ายโปรดักส์ในแระเทศไทยยังมีตัวเลขที่น้อยมาก อาจต้องใช้เวลาทำการตลาดอีกนานเป็นปีร่วมกับพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือทุกช่องทาง
กลุ่มเป้าหมายหลักคืออยู่ในโรงพยาบาล ขณะเดียวกันเทรนด์การใช้เครื่อง CPAP ก็แพร่หลายมากขึ้นในโลกดิจิทัล และ ResMed ก็ต้องการขยายตลาดจากที่อยู่ในโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ให้เติบโตเพิ่มขึ้นในโลกดิจิทัลเช่นกัน ซึ่งคนที่จะใช้เครื่อง CPAP ได้ในปัจจุบัน จะต้องมีใบรับรองจากแพทย์ คนที่ไม่เคยตรวจการนอนจะต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยก่อน”
นายคาลอส กล่าวว่า ในอนาคต ResMed มีแผนจะเปิดตัวสำนักงานในประเทศอื่นๆ มากขึ้นอีกในประเทศที่มีประชากรที่ต้องการการรักษาสุขภาพการนอน ขณะที่ปัจจุบันตลาดใหญ่ของ ResMed จะอยู่ที่ USA ฝรั่งเศส และเยอรมันนี ส่วนในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และจีน
โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากรมากกว่า 657 ล้านคน และไทยถือเป็นตลาดสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยศักยภาพการเติบโตทั้งในด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาระบบด้านสุขภาพ การเปิดสำนักงานในไทยจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้พันธมิตรทางธุรกิจ และช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยและแพทย์ในประเทศ
สำหรับกลยุทธ์ของ ResMed ตั้งเป้าหมายช่วยผู้คนกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกใช้ชีวิตเต็มศักยภาพภายในปี 2573 สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุขในการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพการนอนและการหายใจ ตลอดจนการให้ความรู้กับบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการเข้าถึงเครื่อง CPAP ซึ่ง ResMed พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงฯ และพาร์ทเนอร์ในประเทศไทย นอกจากนี้ผลการสำรวจ ResMed Global Sleep Survey 2024 กลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย 1,500 คน ระบุว่า 22% มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA)
“ResMed มีข้อมูลด้านการหายใจมากกว่า 19 พันล้านคนจากผู้ป่วยทั่วโลก ซึ่งเติบโตถึง 28% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และมีผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคการนอนไม่หลับมากกว่า 28 ล้านคนทั่วโลกที่อยู่ในระบบซอฟต์แวร์ AirView ของเรา แต่มีเพียง 0.02% เท่านั้นที่ได้เข้ารับการวินิจฉัย ดังนั้นการส่งมอบองค์ความรู้และสร้างการตระหนักแก่ประชากรในวงกว้างเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพเหล่านี้จึงมีความสำคัญ สำหรับการพลิกโฉมการดูแลตรวจเช็คสุขภาพการนอน สุขภาพการหายใจได้จากที่บ้านผ่านโซลูชันชั้นนำของตลาด”
ด้าน นางสาวพิมพ์มนัส รินทร์ศรี ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาค บริษัท เรสเมด เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ResMed ต้องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคหยุดหายใจขณะหลับให้กับคนไทยทุกคน ถัดมาคือส่งเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มการตรวจการนอนหลับให้มากขึ้น นอกเหนือจากนี้ก็ตั้งใจพัฒนาสินค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนไข้ที่แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยผลักดันกลยุทธ์ ResMed ให้เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้