รพ.มงกุฎวัฒนะ ประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทอง-ถอนตัวจาก สปสช. 

13 ธ.ค. 2567 | 04:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2567 | 04:29 น.

รพ.มงกุฎวัฒนะ ประกาศหยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทอง กรณีรับส่งต่อผู้ป่วยนอก OP-REFER อ้างเหตุ สปสช.ไม่จ่ายหนี้ 14 ล้าน ล่าสุดประกาศถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญาปฐมภูมิ สปสช. 

13 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เหรียญทอง แน่นหนา ประกาศยกเลิกโครงการขยายเพดานปฐมภูมิผู้ป่วยบัตรทอง 250,000 คนขึ้นตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ทั้งยังได้ประกาศยกเลิกการขึ้นทะเบียนปฐมภูมิผู้ป่วยบัตรทอง 50,000 คนที่ขึ้นตรงอยู่แล้วกับ รพ.มงกุฎวัฒนะด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แจ้งหยุดให้บริการผู้ป่วยบัตรทองกรณีรับส่งต่อผู้ป่วยนอก OP-REFER ไปก่อนหน้านี้ 

สำหรับข้อความมีรายละเอียดระบุว่า ประกาศยกเลิกโครงการขยายเพดานปฐมภูมิผู้ป่วยบัตรทอง 250,000 คนขึ้นตรงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะเพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยบัตรทองส่งต่อจากคลินิกต่างๆ และยกเลิกการขึ้นทะเบียนปฐมภูมิผู้ป่วยบัตรทอง 50,000 คนที่ขึ้นตรงอยู่แล้วกับ รพ.มงกุฎวัฒนะในวันที่ 1 ต.ค.68 ปีหน้า...พูดง่าย ๆชัด ๆ ว่า รพ.มงกุฎวัฒนะประกาศถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญาปฐมภูมิ

แต่ รพ.มงกุฎวัฒนะจะยังคงเป็น รพ.รับการส่งต่อผู้ป่วยบัตรทองที่มีอาการหนัก ประสบอุบัติเหตุ หรือป่วยด้วยโรคร้ายแรงจาก รพ.รัฐที่ประสบปัญหาเตียงเต็ม หรือยังคงเป็นคู่สัญญาทุติยภูมิ และตติยภูมิเฉพาะโรคต่างๆ เพื่อรักษาผู้ป่วยที่ต้องนอนรักษาตัวใน รพ.

สำหรับผู้ป่วยบัตรทองที่ช่วยเหลือตนเองได้สามารถจ่ายค่ารักษาเองได้ แต่ต้องการราคาค่าบริการใกล้เคียงกับที่ สปสช จ่าย รพ.มงกุฎวัฒนะจัดโครงการ "จ่ายเงินเอง ราคาบัตรทอง" ใน ม.ค.68 ปีหน้านี้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยบัตรทองที่จ่ายค่ารักษาเองได้แต่ต้องการจ่ายในราคาใกล้เคียงกับ สปสช.

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นพ.เหรียญทอง ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์ข้อความแจ้งเตือนประชาชนสิทธิบัตรทองเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมามีรายละเอียดให้มีการแชร์ถึงผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกต่าง ๆ ที่ส่งต่อมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะ ว่า 

รพ.มงกุฎวัฒนะ มีความจำเป็นต้องหยุดให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วยนอก กรณี OP-REFER จากทุกคลินิกที่ส่งต่อ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ว่าจะมีใบส่งตัวหรือไม่มีใบส่งตัวตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ วันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.67 เป็นต้นไป

การหยุดให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วยนอก กรณี OP-REFER นี้เป็นไปตามที่ผมได้ประกาศให้ทราบทั่วกันตั้งแต่ ต.ค.67 แล้ว และ สปสช.โดยคณะทำงานได้ยืนยันว่า จะจ่ายหนี้ค้างจ่ายกรณี OP REFER ที่คลินิกคู่สัญญาของ สปสช ส่งต่อผู้ป่วยมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะ ภายในสิ้นเดือน พ.ย.67 แต่ สปสช ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหนี้ค้างจ่ายกรณี OP REFER ที่คลินิกคู่สัญญาของ สปสช ส่งต่อผู้ป่วยมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะ จำนวนเกือบ 14 ล้านบาทได้

ทั้งนี้ ยังไม่นับรวมจากการที่ สปสช ไม่ยอมจ่ายค่าแพทย์ในการตรวจรักษาผู้ป่วยกรณี OP REFER ตั้งแต่ 1 มี.ค.67 จนถึงปัจจุบันอีกเป็นจำนวนมากกว่า 30 ล้านบาท รวมจำนวนหนี้ค้างชำระกรณี OP REFER ที่คลินิกคู่สัญญาของ สปสช ส่งต่อผู้ป่วยมายัง รพ.มงกุฎวัฒนะ มากกว่า 44 ล้านบาท (ประมาณ 50 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน)

หาก รพ.มงกุฎวัฒนะยังปล่อยให้บริการรับส่งต่อผู้ป่วยนอก กรณี OP-REFER นี้ต่อไป รพ.มงกุฎวัฒนะจะไม่สามารถอยู่รอดได้ เนื่องจาก รพ.มงกุฎวัฒนะเคยประสบปัญหาในลักษณะนี้ จำนวนหนี้ 13.2 ล้านบาทเศษเมื่อปี พ.ศ.2563 จนต้องฟ้องศาลปกครอง

ดังนั้น ตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้วันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.67 เป็นต้นไป ผู้ป่วยบัตรทองจากคลินิกต่าง ๆ ที่ส่งตัวมารักษากับ รพ.มงกุฎวัฒนะ จะต้องจ่ายเงินเองจนกว่า สปสช.จะเคลียร์หนี้สินทุกรายการจากกรณี OP REFER ตามที่ สปสช โดยคณะทำงานตกลงกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ เมื่อต้นเดือน พ.ย.67 ที่ผ่านมา

หมายเหตุ ยกเว้นกรณีผู้ป่วยโรคมะเร็ง, โรคไตวายเรื้อรัง และโรคเอดส์ ที่ รพ.มงกุฎวัฒนะจะยังคงให้บริการตรวจรักษาเนื่องจากเป็นกรณีโรคร้ายแรงที่มีมูลนิธิ มวรร เข้าให้การช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ"