26 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ กพฉ.ว่า ในที่ประชุมได้มอบข้อสั่งการถึงการเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดยได้เน้นย้ำว่า ระบบการบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ตั้งแต่การปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุการขนส่งผู้บาดเจ็บและการรักษาต่อเนื่องไปจนถึงมือแพทย์ เป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและความพิการจากอุบัติเหตุ และปีใหม่ 2568 นี้
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้เคาะวันเฝ้าระวังเพิ่มจาก 7 วัน เป็น 10 วัน ตั้งแต่ 27 ธ.ค. 67 – 5 ม.ค.68 ขอให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินและผู้ที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมรับมือกับสถานที่จะเกิดขึ้นและขอให้ทำงานด้วยความปลอดภัย ส่วนตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกิจกรรมควบคุมเข้มข้นความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่ขนส่งจตุจักรในวันที่ 26 ธ.ค.นี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมได้รับทราบการเตรียมความพร้อมบริการการแพทย์ฉุกเฉินเพื่อรับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 โดย สพฉ.ได้บูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนการดำเนินงานในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เป็นการดำเนินการตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2565 - 2570 เพื่อดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ ติดตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ โดยประสานติดตามสถานการณ์กับหน่วยปฏิบัติการอำนวยการเพื่อยกระดับควานเข้มข้นในการปฏิบัติการอำนวยการทุกระดับ
รวมทั้งหารือเตรียมการร่วมกับกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท และทางหลวงพิเศษ จัดทำข้อมูลจุดอันตราย ที่พบการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งเพื่อเป็นข้อมูลในการเตรียมจัดทีมปฏิบัติการให้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้อย่างรวดเร็ว และเตรียมความพร้อมรับการเกิดอุบัติเหตุตามแนวเส้นทางหลวงพิเศษ M 6 ช่วงปากช่อง - สีคิ้ว - ขามทะเลสอ - นครราชสีมา และทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองบางใหญ่ - กาญจนาบุรี M 81
เปิด 6 จุด ด่านบางใหญ่ ด่านนครปฐมตะวันออก ด่านนครปฐมตะวันตก ด่านท่ามะกา ด่านท่าม่วง และด่านกาญจนบุรี โดยทางอากาศได้เตรียมพร้อมปฏิบัติการฉุกเฉิน หน่วยปฏิบัติการแพทย์ ระดับเฉพาะทางสาขาฉุกเฉินการแพทย์ทางอากาศในทุกเขตสุขภาพ จำนวน 25 แห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์โรงพยาบาลปากช่องนานาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉินถนนหมายเลข M6 และพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ ยังมีการประสานขอความร่วมมือหน่วยปฏิบัติการแพทย์ทางบก น้ำ อากาศ กับหน่วยปฏิบัติการอำนวยการในทุกเขตสุขภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อ
ส่วนศูนย์นเรนทรได้เตรียมความพร้อมกำลังคนเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการอำนวยการ และศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิตามนโยบาย "เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่" รวมทั้งมีการมอบหมายผู้บริการกระจายลงพื้นที่ เพื่อการประสานงานและให้ขวัญกำลังใจกับผู้ปฏิบัติงาน
นอกจากนี้อยากเน้นย้ำเรื่องการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ มากกว่ารักษาการบาดเจ็บหลังเกิดเหตุ ซึ่งสาเหตุมาจากคนเป็นหลัก คือเมา หลับใน ประมาท ส่วนปัจจัยอื่นมีเรื่อง ถนนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีการรณรงค์กันมาอย่างต่อเนื่อง และช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ช่วยเป็นหูเป็นตา โทรศัพท์อย่าปิด อาจจะต้องมีการสื่อสารกัน