สีลมถนนสายเศรษฐกิจ กลางใจเมือง และขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางย่านธุรกิจที่สำคัญของไทย เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมโยงระบบขนส่งหลักของกรุงเทพมหานครทั้งรถไฟฟ้า BTSและรถไฟใต้ดิน MRT ปัจจุบันถูกปลุกให้ตื่นจากหลับอีกครั้งหลัง กลุ่มทุนขนาดใหญ่ เข้าพื้นที่ พลิกโฉมพัฒนาบิ๊กโปรเจ็กต์ รูปแบบผสมผสานหรือ มิกซ์ยูส กันอย่างคึกคัก ผลักให้ราคาที่ดิน ทำเลนี้ขยับสูง ชนกับย่านสุขุมวิท
แหลมทองฯ ดันที่สีลมพุ่ง3 ล.
แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทแหลมทองสหการจำกัดหรือกลุ่มแหลมทองสหการ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ ตระกูลคณาธนะวนิชย์ ดำเนินธุรกิจด้านการพืชผลทางการเกษตร ปศุสัตว์ และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภท อาคารสำนักงาน “แบรนด์วานิช”แลนด์ลอร์ดใหญ่สะสมที่ดินนับหมื่นล้านบาท ในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.)
อย่างที่ดินแปลงติดถนนรัชดาภิเษก 24ไร่ ที่สร้างความฮือฮาลงทุนทำสวนมะนาวกลางเมืองลดภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาแล้ว โดย ล่าสุดได้ซุ่มเงียบซื้ออาคาร บุญมิตร ออฟฟิศเก่า อายุกว่า 44 ปี เนื้อที่ 3-2-91.51 ไร่ หรือ 1,491.5 ตารางวา กรรมสิทธิ์ 4 โฉนด บนถนนสีลมซอย 8 ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ ในราคา ตารางวาละ 3.2 ล้านบาท โดยมีมูลค่ารวม 4,200 ล้านบาทสร้างความคึกคักให้กับพื้นที่โดยรอบ
เนื่องจากเจ้าของอาคารซึ่งเป็นนักธุรกิจรุ่นเก่าไม่ประสงค์ที่จะบริหารต่อ เพราะการแข่งขันสูงไม่สามารถต่อสู้กับอาคารรุ่นใหม่ได้จึงติดต่อโบรกเกอร์ประกาศขาย ซึ่งที่ผ่านมามีหลายกลุ่มทาบทามซื้อแต่ในที่สุด แหลมฯ ทองคว้าไป มองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว 2 สถานีได้แก่ สถานีศาลาแดง และสถานีช่องนนทรีฯใกล้สถานที่สำคัญ แหล่งงานใหญ่ ศูนย์กลางช็อปปิ้ง
ทำเลดีมีชัย ไม่สนที่ดินแพง
ด้วยข้อจำกัดที่ แปลงที่ดินแปลงใหญ่ในสีลมหายากไม่มีการซื้อขายเปลื่อนมือมาเป็นเวลานาน ที่ผ่านมาราคาที่ดินจึงอยู่ในภาวะทรงตัวที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา เมื่อนายทุนใหญ่ เห็นโอกาสศักยภาพของทำเล ไม่ว่าที่ดินจะแพงแค่ไหนต้องชิงความได้เปรียบ จึงไม่แปลกที่ทำให้ราคาซื้อขายอาจทิ้งห่างราคาประเมินรัฐของกรมธนารักษ์ออกไปและไม่สามารถปรับให้สูงตามได้เพราะอาจกระทบประชาชนที่โอนบ้าน ซึ่งกรณีของแหลมทองสหการซื้ออาคารบุญมิตรก็ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับขึ้นไปสูงกว่าราคาประเมินถึง 3 เท่า
ทุบตึกบุญมิตรขึ้นออฟฟิศหรู
“ฐานเศรษฐกิจ” ลงพื้นที่สำรวจพบอาคารดังกล่าวอยู่ระหว่างล้อมรั้วรื้อถอนเตรียมก่อสร้างเป็นอาคารสำนักงานทันสมัยเกรดเอ เนื้อที่เกือบ 1 แสนตารางเมตร สูงกว่า50ชั้นทั้งนี้เมื่อคำนวณขนาดพื้นที่ ตัวเลขพื้นที่ 4 ไร่ จากผังเมืองรวม กรุงเทพมหานครกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน พื้นที่สีแดงประเภทพาณิชยกรรม (พ5) FAR หรือ
สัดส่วนที่ดินต่อพื้นที่อาคาร สร้างได้ 10 เท่าของแปลงที่ดิน และบวกเพิ่มโบนัสสร้างพื้นที่ขายเพิ่มได้อีก 20% หากแหลมทองสหการ พัฒนาพื้นที่ที่ให้เป็นสาธารณประโยชน์ให้บุคคลภายนอกได้ใช้สอยร่วมกันเช่นทางเดิน ทางจักรยาน สวนสาธารณะ ขณะอาคารบุญมิตรเดิม มีพื้นที่ให้เช่า 21,000 ตารางเมตร เพราะมีความสูงเพียง 12 ชั้น ขณะศักยภาพทำเลยังพัฒนาได้มากกว่านี้
จากการสอบถาม คนในบริษัทแหลมทองฯ ระบุว่าการรื้อถอนจะแล้วเสร็จภายในปีนี้จากนั้น ต้องขออนุญาตทำรายการผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ ต้องใช้เวลาโดยรูปแบบเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ อาจใช้ชื่อวานิช เพลสแอทสีลมก็เป็นได้เพราะบริษัทเน้นพัฒนาอาคารสำนักงานเป็นหลัก ทั้งนี้ การพัฒนาบนถนนสีลมมีอาคารสำนักงานเกรดเออีกมากยอมรับว่าการแข่งขั้นย่อมเกิดขึ้น
ทุนยักษ์พลิกโฉมเมือง
ย้อนไปก่อนหน้านี้ ถนนสีลมเริ่มมีสีสันขึ้น หลัง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ผนึก บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ทุบทิ้งโรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพฯ พลิกโฉมครั้งใหญ่ มูลค่า 3.67 หมื่นล้านบาทพัฒนาโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ตึกสูง 69 ชั้น เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินทำเลหัวมุมถนนสีลมตัดกับถนนพระราม 4 แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ในย่านนี้ ที่เน้นพื้นที่สีเขียวสวนขนาดใหญ่ลอยฟ้า ที่เรียกเสียงฮือฮาได้มากพอสมควร โดย ไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมดุสิตธานี
ถัดไปไตรมาสที่ 1 ปี 2567 เปิดให้บริการ เซ็นทรัลพาร์ค ออฟฟิศเซส ตามด้วย ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค และ ไตรมาสที่ 2-3 ปี 2568 เปิดดุสิต เรสซิเดนเซส/ดุสิต พาร์คไซด์ สร้างความอลังการบนที่ดิน 23 ไร่เศษ ที่หาแปลงที่ดินที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนอกจากทุบอาคารเดิมแล้วพัฒนาใหม่ให้เกิดความทันสมัย แต่สถาปัตยกรรมยังคงมีความเป็นดั่งเดิมทางวัฒนธรรมไทย โดยสามารถเชื่อมโยงถนนพระราม 4 ทะลุอาณาจักรเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี โครงการวันแบงค็อก และที่ดินแปลงใหญ่
ทำเลปากซอยคอนแวนต์พัฒนามิกซ์ยูสมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ร่วมทุนกับ 2 พันธมิตร บริษัท นายณ์เอสเตท จำกัด และกลุ่มไมเนอร์ พัฒนา อาคารสำนักงานเกรดพรีเมียม หลังทุบตึกสีบุญเรืองเก่าและจะเปิดให้บริการปี 2565 ขณะเดียวกัน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือการบินไทยอยู่ระหว่างเปิดประมูลอาคารสำนักงานการบินไทย อาคารพาณิชย์ 8 คูหา บริเวณจุดตัดถนนสีลมกับนราธิวาสราชนครินทร์ อีกทั้งโรบินสันห้างดังในระแวกดังกล่าว อยู่ระหว่างปรับปรุงใหม่คาดว่าพร้อมจะอวดโฉมในเร็วๆ นี้
ออฟฟิศยังมีความต้องการ
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด กล่าวว่า สีลมเป็นซีบีดี ดั้งเดิมกว่า 20 ปี ปัจจุบันมีข้อกำกัด คือที่ดินหายาก จึงมีเพียงอาคารสำนักงานเก่า ทำให้สีลม วันนี้ยังขาด อาคารสำนักงานใหม่ทันสมัย ขณะราคาที่ดินอยู่ที่ 2-2.5 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งจะขยับขึ้นเมื่อมีการพัฒนา
ซีบีดีอันดับ1 ประเทศ
สอดคล้องกับแหล่งข่าวกทม. ระบุว่า ย่านนี้มีที่ดินจำกัด การซื้อขายเบาบาง ส่วนใหญ่ ยังมีบ้านเรือนอยู่อาศัย เก่าแก่ของเศรษฐีผู้ดีเก่า ชุมชนขนาดใหญ่หลังธนาคารกรุงเทพ ยังต้องการอยู่อย่างสงบมากกว่า
อย่างไรก็ตาม สีลมถือเป็นซีบีดีอันดับ 1 ของประเทศที่ถูกกำหนดให้เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่ผสามผสานกับย่านบันเทิงอย่างพัฒน์พงษ์หลอมรวมไว้ด้วยกัน กลางวันทำงานกลางคืนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน แหล่งช็อปปิ้งชั้นนำหลากหลาย เชื่อมโยงด้วยรถไฟฟ้าหากมีอาคารสำนักงานใหม่ออกมาและมีการพลิกโฉมพื้นที่ จะสามารถดึงคนให้เข้าพื้นที่ได้มากมหาศาล เพราะเชื่อว่าสีลมไม่เคยหลับนั่นเอง