เหตุ นั่งร้านถล่มโครงการก่อสร้างโรงแรมหรู ภายใน "โครงการวันแบงค็อก" เนื้อที่104ไร่ อาณาจักร “เจ้าสัวเจริญ” เจริญ สิริวัฒนภักดี ฉายาราชาเทคโอเว่อร์ของเมืองไทย หนึ่งใน 10 มหาเศรษฐีไทย ร่วงถล่มทับคนงานเสียชีวิตจำนวน 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน บริเวณถนนพระราม4 ตัดถนนวิทยุเขตปทุมวัน สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย
ล่าสุด ตำรวจ สน.ลุมพินี อยู่ระหว่างเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวน พร้อมกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) สำนักงานเขตปทุมวันฝ่ายโยธา และตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เกี่ยวข้องทำให้มีคนเสียชีวิต เข้าข่ายความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่
สำหรับโครงการนี้มี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) ของ “เจ้าสัวเปรมชัย” เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการบริษัท เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง (ผู้รับเหมาชั้นต้น) ได้ออกหนังสือชี้แจง โดยระบุว่า เสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่คนงานเสียชีวิต ยืนยันว่าจะเยียวยาและดูแลครอบครัวอย่างเต็มกำลัง
โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) เป็นการลงทุนของบริษัทในเครือ “ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย)” ร่วมทุนกับ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ในเครือของ “เจ้าสัวเจริญ” รวบรวมความเป็น “ที่สุด” ระดับประเทศ เพื่อเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก
ตั้งแต่ “ที่ดิน” ก่อสร้างโครงการเป็นทำเลทอง บริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 เนื้อที่ 104 ไร่ ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ให้สิทธิ์เช่าที่ดิน 60 ปี มูลค่าการลงทุนโครงการ 1.2 แสนล้านบาท พื้นที่รวม 1.83 ล้านตร.ม. เพื่อพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ รูปแบบ “มิกซ์ยูสใหญ่ที่สุด” ในประเทศไทย
เจอแบบนี้เรียกว่างานเข้าก็คงไม่ผิด แต่เอ๊ะ หรือจะเป็นอิทธิพลจากปีชงของ เจ้าสัวเจริญ ?
เพราะก่อนหน้านี้ “เครือไทยโฮลดิ้ง” เจ้าสัวเจริญ ขาดทุนยับจากกรมธรรม์โควิด ด้วยพิษโควิด “เจอจ่ายจบ” นั่นก็คือ บมจ.อาคเนย์ประกันภัย และ บมจ.ไทยประกันภัย โดย “อาคเนย์ประกันภัย” เจอมรสุมแรก หลัง เดือน ก.ย.ปีก่อน ช่วงโควิดระบาด ยอดเคลมประกันโควิดพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แถมจ่ายเคลมล่าช้า ผู้เอาประกันปิดล้อมหน้าบริษัท จนต้องขอเลิกกิจการ เรียกว่าสะเทือนทั้งวงการด้วยผู้ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างและมีวิธีขอปิดกิจการที่ไม่ธรรมดา ทำเอาผู้เอาประกันตั้งคำถามว่า “แบบนี้ก็ได้เหรอ ? ”
ส่วน “เจ้าสัวเปรมชัย” ประธานบริหารและกรรมการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่เรียกว่า เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการก่อสร้างที่มีโครงการขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ รถไฟทางคู่ระยะที่ 2, รถไฟไทย-จีน, รถไฟสายสีม่วง ส้ม แดง, ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3, รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน, โครงการบริหารจัดการน้ำ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในต่างประเทศอีกหลายประเทศ
ต้องสิ้นอิสรภาพ หลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 2 ปี 14 เดือน ไม่รอลงอาญา ใน “คดีเสือดำ” เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2561 นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและควบคุมตัวนายเปรมชัยและคณะ หลังได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งลักลอบตั้งแคมป์พักแรมในบริเวณห้วยปะชิ การตรวจค้นพบอาวุธปืนและเนื้อสัตว์ป่าชำแหละแช่เย็นไว้ รวมถึงซากเสือดำ
การต่อสู้ต่อในคดีนี้ล่วงเลยมาจนถึง 8 ธ.ค. 2563 วันชี้ชะตา ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้คงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 คน ตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา แต่ให้ยกฟ้องในฐานความผิดฐานร่วมกันรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่า เนื่องจากมีการแก้ไข พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 55 ทำให้ยกเลิกฐานความผิดนี้ไป
ส่งผลทำให้ บริษัท แต่งตั้ง นายธรณิศ กรรณสูต บุตรชายคนเล็กของนายเปรมชัย ตำแหน่งกรรมการ รองประธานบริหารอาวุโสและผู้ช่วยประธานบริหาร ให้ปฏิบัติหน้าที่แทนประธานบริหาร ขณะที่นางคณิตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม อยากให้นายเปรมชัยอยู่ใกล้แพทย์ในโรงพยาบาล เพราะนายเปรมชัยมีปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และเพิ่งผ่าตัดตามา โดยเฉพาะโรคเบาหวานที่เป็นหนักที่สุด