วันที่ 22 ก.พ.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบ ร่างแถลงข่าวร่วม (Joint Press Statement) สำหรับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของ "ดาโตะ ซรี อิชมาอิล ซาบรี ยาค็อบ (Dato' Sri ismail Sabri Yaakob) นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย" ระหว่างวันที่ 24-26 ก.พ. 2565 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ(กต.)เสนอ
นายธนกร กล่าวว่า เป็นการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ที่เราว่างเว้นมานาน โดยในวันที่ 24-26 ก.พ.2565 ดาโต๊ะซารี อิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีกำหนดจะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำตัวในการเข้ารับตำแหน่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของผู้นำประเทศสมาชิกอาซียน
โดยในการเยือนครั้งนี้ ทั้งนายกรัฐมนตรีไทยและมาเลเซีย มีกำหนดหารือในส่วนข้อราชการในวันที่ 25 ก.พ.2565 ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือในเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านให้มีความก้าวหน้า
โดยเฉพาะการหารือแนวทางเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งสองประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การร่วมมือทางด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ การส่งเสริมความเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดน ตลอดจนความร่วมมือในกรอบอาเซียน และกรอบพหุภาคีอื่นๆ
แหล่งข่าวระดับสูงจากรัฐบาลไทย เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจ ว่า สำหรับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของดาโตะ ซรี อิชมาอิล ซาบรี ยาค็อบ (Dato' Sri ismail Sabri Yaakob) นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ก.พ. 2565 ตามธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศสมาชิกอาเซียนในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนปัจจุบันเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2564 และได้เดินทางเยือนประเทศอาเชียนอย่างเป็นทางการแล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐอินโดนีเขีย สาธารณรัฐสิงคโปร์ และบรูไนตารุสซาลาม
ซึ่งการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเขียครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนล่าสุดที่เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ คือ ตุน ดร. มหาธีร์ บิน โมฮัมหมัด ซึ่งเยือนไทยอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 24-25 ตุลาคม 2561
และยังได้เดินทางเยือนไทยอีก 2 ครั้งเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเชียน ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 20-23 มิถุนายน 2562 และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2562
ดังนั้น การเยือนครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระดับผู้นำของไทยและมาเลเซียทั้งเป็นโอกาสกระชับความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคติดเชื้อโควิด 19 และผลักดันความร่วมมือสำคัญต่าง ๆที่ยังคั่งค้างกับมาเลเซีย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่างแถลงข่าวร่วมเกี่ยวกับการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ครม.เห็นชอบไปแล้วนั้น จะเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของทั้งสองฝ่ายในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน ตลอดจนกระชับความร่วมมือในมิติต่าง 4 ด้าน เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่