ภายหลังจาก ฐานเศรษฐกิจ ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางธุรกิจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ “แตงโม นิดา” หรือ นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง พลัดตกจากเรือสปีดโบ้ท กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เสียชีวิต ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ไปแล้ว
โดยได้เสนอเพื่อนชายที่อยู่บนเรือในคืนดังกล่าวแล้ว 2 คน คือ “ไฮโซปอ” ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ คนควบคุมเรือคืนเกิดเหตุ และ “โรเบิร์ต” ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ อีกหนึ่งคนในผู้ที่อยู่ในเหตการณ์สะเทือนขวัญ โดยยังเหลืออีกหนึ่งคนที่หลายคนให้ความสนใจ นั่นคือ “จ๊อบ” นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร
ชายอีกคนบนเรือที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ในคืนวันเกิดเหตุพบภาพว่าเสื้อที่สวมใส่มีรอยขาด แต่ต่อมา จ็อบ นิทัศน์ ได้ชี้แจงช่วงที่เชิญมาออกรายการโหนกระแส พร้อมกับนำเสื้อตัวดังกล่าวที่ยังไม่ได้ซักมายืนยันพบว่าไม่มีรอยขาดแต่อย่างใด ขณะเดียวกันเจ้าตัวยังยืนยันถึงภาพที่อยู่บริเวณท้ายเรือด้วยว่า เป็นการติดทุ่นกันชนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามภายหลังจากออกรายการโหนแรกแสเสร็จ ผู้สื่อข่าวจากช่อง 3 ได้พูดคุยกับ จ๊อบ นิทัศน์ และสังเกตเห็นรอยแผลฟกช้ำใกล้รักแร้ขวาและรอยขีดข่วน จึงสอบว่าแผลอะไร แต่จ๊อบ ไม่ตอบ ก่อนมีอารมณ์ฉุนเฉียวใส่นักข่าว
เมื่อถามย้ำไปอีก จ๊อบ จึงตอบกลับว่า ล้มบนเรือตอนที่วนเรือหา แตงโม นิดา หลังจากรู้ว่าตกจากเรือไป ก่อนที่ ไฮโซปอ จะขอให้ลบภาพจากกล้องออกไป
ส่วนผลชันสูตรร่างของ “แตงโม นิดา” ล่าสุด พล.ต.ท.จิรพัตร ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ระบุผลว่า แตงโม ขาดอากาศหายใจ เพราะในหลอดลม ปอด กระเพาะอาหาร มีน้ำ และโคลน จึงสรุปได้ว่า ตกน้ำและสำลักน้ำ ส่วนบาดแผลตามร่างกาย ที่ขาขวาเป็นร่องรอยแผลใหญ่และขาซ้ายเป็นร่องรอยแผลขนาดเล็ก เกิดจากของมีคมไม่ทราบชนิด ต้องเปรียบเทียบกับใบพัดเรือและของมีคมชนิดอื่นก่อนจึงจะสรุปได้
ขณะที่พ.ต.อ.หญิง ณปภัช ณัฏฐสุมน นายแพทย์ (สบ5) หัวหน้ากลุ่มงานนิติพยาธิ สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า การตรวจร่างกายของ จ๊อบ นิทัศน์ ที่พบร่องรอยบาดแผลและรอยฟกช้ำตามร่างกาย จากการตรวจพบว่า บาดแผลมีอายุ 5-7 วัน อยู่ในห้วงเวลาเดียวกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่แตงโม พัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
แต่รอยถลอกไม่พบว่าเป็นร่องรอยการต่อสู้ เพราะบาดแผลมีร่องรอยใหญ่กว่าเล็บมนุษย์ ส่วนอีก 4 คนบนเรือ อยู่ระหว่างการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เช่นเดียวกับการตรวจสอบเครื่องยนต์ใบพัดเรือ และเก็บดีเอ็นเอบนเรือ เพื่อหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป
สำหรับข้อมูลด้านการประกอบธุรกิจของ “จ๊อบ” นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร ถือเป็นหนึ่งนักธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำธุรกิจหลายอย่าง โดยจากการตรวจสอบข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า จ๊อบ นิทัศน์ ได้เข้าไปนั่งเป็นกรรมการ และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 7 บริษัทด้วยกัน โดยไล่เรียงดังนี้
1.บริษัท ยีโอ เซอร์เวย์ ซิวิลเอ็นจิเนียร์ จำกัด
- ตั้งอยู่เลขที่ 1000/7-8 อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้นที่ 19 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ สำรวจสายส่งไฟฟ้า
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มี นายนิทัศน์ เป็นกรรมการเพียงคนเดียว
- มีผู้ถือหุ้นด้วยกัน 7 คน โดยมี นรเศรษฐ ไม้เกตุ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด จำนวน 99.94%
ข้อมูลการเงินในปี 2563
- มีสินทรัพย์รวม 1,489 บาท ลดลง 11.84% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน
- รายได้รวม ไม่มี
- รายจ่ายรวม 5,200 บาท
- ผลประกอบการขาดทุน 346,754 บาท ลดลง 0.27%
2.บริษัท สิบล้อ จำกัด
- ตั้งอยู่เลขที่ 1000/7-8 อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้นที่ 19 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ กิจกรรมของตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและตัวแทนออกของ (ตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร)
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 3 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มี นายนิทัศน์ เป็นกรรมการเพียงคนเดียว และถือหุ้นใหญ่ที่สุด 66% ในจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 3 คน
ข้อมูลการเงินในปี 2564
3.บริษัท หลังคาเงินหลังคาทอง จำกัด
- ตั้งอยู่เลขที่ 61/37 ชั้น 4 ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ ประกอบกิจการร้านทำผม
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มี นายนิทัศน์, นายพุฒิพงศ์ จำเริญสมบัติ, นางสาววรัญญา พุกผาสุข และนายวิพุธ จารุธรรมากร เป็นกรรมการ
ข้อมูลการเงินในปี 2563
- มีสินทรัพย์รวม 4.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.34% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน
- รายได้รวม 10.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.59%
- รายจ่ายรวม 9.91 ล้านบาท
- ผลประกอบการกำไร 221,192 บาท เพิ่มขึ้น 169.96%
4.บริษัท อินเตอร์ แม็กซ์ เซอร์วิส โพรไวเดอร์ จำกัด
- ตั้งอยู่เลขที่ 1000/35 อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้น 5 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ โทรคมนาคม การสื่อสาร ตัวแทน นายหน้า
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 19 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มีนายวิรัช นิมมานวัฒนา และ นายนิทัศน์ เป็นกรรมการ
- ผู้ถือหุ้นมีทั้งหมด 7 คน โดย นายนิทัศน์ เป็นถือหุ้นใหญ่ที่สุด 99.94%
ข้อมูลการเงินในปี 2564
5.บริษัท เอ บี ที 2019 จำกัด
- ตั้งอยู่เลขที่ 1000/7-8 อาคารลิเบอร์ตี้ พลาซ่า ชั้นที่ 19 ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ การขนส่งและขนถ่ายสินค้า รวมถึงคนโดยสาร
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มี นายนิทัศน์ เป็นกรรมการเพียงคนเดียว
- มีผู้ถือหุ้นด้วยกัน 3 คน โดยมี บริษัท อินเตอร์ แม็กซ์ เซอร์วิส โพรไวเดอร์ จำกัดเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด จำนวน 90%
- ส่วน นายนิทัศน์ ถือหุ้นเป็นอันดับที่ 2 จำนวน 9.90%
ข้อมูลการเงินในปี 2563
- มีสินทรัพย์รวม 1.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.54% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน
- รายได้รวม 2.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.35%
- รายจ่ายรวม 2.69 ล้านบาท
- ผลประกอบการกำไร 16,714 บาท เพิ่มขึ้น 163.35%
6.บริษัท โมสท์เวลล์ จำกัด
- ตั้งอยู่เลขที่ 88/126 ซอยวิภาวดีรังสิต 72 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ การขายส่งเครื่องสำอางและเครื่องประทินโฉม
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มี นายนิทัศน์ เป็นกรรมการเพียงคนเดียว
- มีผู้ถือหุ้น 3 คน โดย นายนิทัศน์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด จำนวน 99.98%
ข้อมูลการเงินในปี 2563
- มีสินทรัพย์รวม 902,028 บาท ลดลง 6.89% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน
- รายได้รวม 281,653 บาท ลดลง 43.47%
- รายจ่ายรวม 345,181 บาท
- ผลประกอบการขาดทุน 63,528 บาท ลดลง 181.62%
7.บริษัท ซอฟเวอเรน เซอร์วิสเซส จำกัด
- 5/14 หมู่ที่ 8 ถนนสุขุมวิท 113 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
- สถานภาพกิจการ ยังดำเนินกิจการอยู่
- ดำเนินธุรกิจ บริการรับจ้างทำความสะอาด
- มีทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 4 ล้านบาท
ข้อมูลกรรมการและผู้ถือหุ้น
- มี นายกาวิน แมทธิว ลินสเดล เป็นกรรมการเพียงคนเดียว
- มีผู้ถือหุ้นด้วยกัน 3 คน โดยมี พอล โจเซฟ แรบบิท เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 49%
- ส่วน นายนิทัศน์ เป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 2 จำนวน 26%
ข้อมูลการเงินในปี 2558
- มีสินทรัพย์รวม 3.92 ล้านบาท ลดลง 0.09% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน
- รายได้รวม 16,000 บาท ลดลง 43.01%
- รายจ่ายรวม 20,528 บาท
- ผลประกอบการขาดทุน 4,528 บาท ดีขึ้นจากปีก่อน 94.86%