ความคืบหน้า "เงินช่วยเหลือชาวนา" ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดได้รับเงิน 2 หมื่นบาท วงเงิน 54,972.72 บาท จำนวนเกษตรกรที่จะได้รับประโยชน์ กว่า 4.6 ล้านราย เกษตรกร สามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินได้ที่ลิ้งค์ https://chongkho.inbaac.com/ บัญชี ธ.ก.ส. ล่าสุด นั้นมีความคืบหน้าตามลำดับ
แหล่งข่าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. ) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” งบประมาณสำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 มีจำนวนคงเหลือไม่เพียงพอสำหรับการจ่ายชดเชยให้เกษตรกร จากสาเหตุปีนี้พื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้งบประมาณสำหรับโครงการสนับนุนค่าบริหารจัดการไม่เพียงพอ
สาเหตุที่วงเงินงบประมาณคงเหลือไม่เท่ากันนั้นเนื่องมาจากโครงการประกันรายได้เกษตรกร หรือ "ประกันรายได้ข้าว" จะชดเชยให้เกษตรกรจากส่วนต่างราคาประกัน และราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงสำหรับโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ จะจ่ายเงินสนับสนุนให้เกษตรกรจากพื้นที่ที่เกษตรกรแจ้งขึ้นทะเบียนไว้ จึงทำให้ผลการจ่ายเงินออกมาไม่เท่ากัน
ปัจจุบันเงินงบประมาณคงเหลือ 187 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลเกษตรกร กรณีพร้อมโอน 361 ล้านบาท สำหรับกรณีไม่พร้อมโอน ได้แก่ กรณีเกษตรกรไม่มีบัญชีเงินฝาก 7 ล้านบาท และ กรณีเกษตรกร ที่ชื่อสกุล ขึ้นทะเบียนไม่ตรงกับบัญชี ธ.ก.ส. 15 ล้านบาท ดังนั้นจะขาดงบประมาณชดเชยรวมทั้งสิ้น 178.5 ล้านบาท โดยงบประมาณส่วนนี้จะยังไม่รวมข้อมูลติดบล็อกโค๊ด ประมาณ 44,000 ราย
ธ.ก.ส. ได้ประสาน กรมส่งเสริมการเกษตร ให้ช่วยตรวจสอบและยืนยันข้อมูลอีกครั้งแล้ว และข้อมูลการเพิ่มเติมอีก 7,000-8,000 ราย ที่ ธ.ก.ส.ยังไม่ได้รับข้อมูล และ ธ.ก.ส. สอบถามเพิ่มเติมว่า สำหรับเงินคงเหลือ 187 ล้านบาท จะจัดสรรเงินคงเหลือส่วนนี้อย่างไร ผู้ใดจะเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์ก่อนและหลัง ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป
อย่างไรก็ดี โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการ ไม่มีข้อมูลวันเก็บเกี่ยว เป็นข้อมูลคนละชุดกับโครงการประกันรายได้ฯ ซึ่งในช่วงก่อนหน้าที่งบประมาณยังคงเพียงพอในการจ่ายเงินชดเชย กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งรายชื่อมาเท่าไร ธ.ก.ส. ก็จะทำการโอนเงินให้ตามรายชื่อเกษตรกรที่ส่งมา ซึ่งเมื่อจำนวนเงินคงเหลือไม่เพียงพอ ธ.ก.ส. ไม่มีอำนาจในการพิจารณาการโอนเงิน จึงขอนำมาหารือในที่ประชุม
ด้าน อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ มอบฝ่ายเลขานุการ จัดการประชุมหารือการขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการฯ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็น ดังนี้
1.กรอบวงเงินที่ต้องจ่ายสนับสนุนเกษตรกรเพิ่มเติม
2.สาเหตุที่ทำให้งบประมาณที่ใช้สำหรับจ่ายสนับสนุนเกษตรกรที่เพิ่มขึ้นจากกรอบที่เสนอคณะรัฐมนตรี ไว้ก่อนนำเข้าที่ประขุมพิจารณาในการประชุมครั้งถัดไป
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า สำหรับการตรวจสอบพื้นที่นั้น ทาง กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งว่า หากเป็นเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์จะใช้ข้อมูลจากกรมที่ดินในการตรวจสอบ แต่หากเป็นเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ จะต้องทำการวาดแปลงพื้นที่ซึ่ง จะนำมาคำนวณพื้นที่ โดยบวกลบไม่เกิน 10% หากตรวจสอบแล้วไม่ถูกต้อง จะต้องวัดพื้นที่ใหม่อีกครั้ง
กรมส่งเสริมการเกษตร ใช้วิธีการเช่นนี้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว จึงสามารถเชื่อถือได้ สำหรับสาเหตุที่ข้อมูลจำนวนครัวเรือนเกษตรกรขึ้นทะเบียนลดลง แต่พื้นที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก
1. ในปีนี้จำนวนน้ำฝนมีมาก บวกกับมาตรการเรื่องภาษีที่ดิน ทำให้พื้นที่ติดถนนที่เมื่อก่อนเป็นนาร้าง ปัจจุบันเจ้าของเริ่มทำเกษตรกรรม และขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อหวังสิทธิ์ในภาษีที่ดิน บุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ถือครองที่ดินเป็นจำนวนมาก จึงมีปล่อยเข่าที่ดิน แต่เมื่อมีมาตรการทางภาษีที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ขี้งเสียภาษีที่ดินถูกลง ผู้เป็นเจ้าของที่ดินจึงหันมาทำเกษตรกรรมเอง
2. มีการโค่นไม้ผล เช่น ลิ้นจี่ เพื่อปลูกข้าวไร่ทดแทนในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้มีแปลงเล็กๆ เพิ่มขึ้น
3.ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อ้อยมีราคาสูง ทำให้เกษตรกรนำพื้นที่นาไปปลูกอ้อย แต่ปัจจุบันอ้อยมีราคาตกต่ำ เกษตรกรจึงยกเลิกการปลูกอ้อยและหันกลับมาปลูกข้าวเหมือนเดิม
วิธีเช็คสถานะ เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท
เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถตรวจสอบสถานะขั้นตอน-ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้
1. เข้าสู่เว็บไซต์ chongkho.inbaac.com ผ่านเบราว์เซอร์อินเตอร์เน็ตต่างๆ เว็บไซต์สำหรับการเช็คเงินเกษตรกร สามารถเข้าใช้งานได้ผ่านทุกบราวน์เซอร์บนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
2. กรอกเลขประจำตัวประชาชนเพื่อใช้ในการเช็คเงินเกษตรกร การเช็คเงินเกษตรกร 2564/2565 เข้าหรือยัง สามารถทราบผลได้ทันทีหลังจากกรอกเลขบัตรประชาชนโดยจะมีรายละเอียดของบัญชี จำนวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ
ตรวจสอบข้อมูลในแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หลังจากตรวจสอบในเว็บไซต์แล้วเรียบร้อย หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชั่น ธ.ก.ส. A-Mobile จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านครัวเรือน
เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถเช็ค "เงินเยียวยาเกษตรกร"ผ่าน 5 ช่องทาง ดังนี้
เช็คสถานะโอนเงินได้ที่ chongkho.inbaac.com คลิกที่นี่
เช็คจาก บัตร ATM
ปรับสมุดเงินฝากที่ธนาคาร
กดสมัครเช็คเงินเข้าออกผ่านไลน์ของ ธ.ก.ส. (ฟรี) โดยเพิ่มเพื่อน ไอดี @baccfamily
เช็คผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile
สำหรับผู้ที่มีมือถือสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส.
ธ.ก.ส. A-Mobile คลิกดาวน์โหลด App Store
ธ.ก.ส. A-Mobile คลิกดาวน์โหลด Google Play