การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีไฮไลท์สำคัญก่อนการประชุมครม. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติวเข้มรัฐมนตรีทุกคนให้เตรียมตัวอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน 2565
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้พูดเรื่องงบประมาณก่อนจะเข้าวาระประชุมครม. โดยใช้เวลาไม่นานมากนัก โดยกล่าวเปิดเรื่องว่า ขอให้หัวหน้าพรรคทุกพรรคไปกำชับสส.ภายในพรรคให้เข้าร่วมประชุมอย่าได้ขาด เพราะกังวลเรื่องขององค์ประชม
เช่นเดียวกับรองนายกรัฐมนตรี "วิษณุ เครืองาม" กำชับเรื่องเหมือนกันให้เข้านั่งประชุมอย่าได้ขาด โดยในการกำชับทั้งหมดนั้น ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี อ้อนพรรคร่วมหนักมาก
“ทุกคนยืนยันชัดเจนในการประชุมครม. ว่า การอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาการันตีว่าไม่ต้องห่วงทุกอย่างยังเหมือนเดิม แสดงได้ว่าเรื่องนี้เรียบร้อย และไม่มีปัญหา ขณะที่นายกรัฐมนตรีขอให้โฟกัสเรื่องงบพัฒนาเป็นหลัก หลังพรรคก้าวไกลออกมาติงว่างบด้านนี้มีน้อย” แหล่งข่าวระบุ
ทั้งนี้ในช่วงหนึ่งของการคุยเรื่องงบประมาณ ได้มีไฮไลท์ที่ทำให้รัฐมนตรีทุกคนที่เข้าร่วมประชุมต้องส่งเสียงฮือฮา เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เปิดไมค์พูดในที่ประชุมด้วยตัวเอง ซึ่งตามปกติแล้วพล.อ.ประวิตร จะไม่ค่อยพูดอะไรในที่ประชุมครม.
โดยรองนายกฯยืนยัน ฐานะรัฐบาลตอนนี้ยังมีความมั่นคง โดยจะผ่านการอภิปรายงบ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นได้ พร้อมระบุ รัฐบาลชุดนี้จะทำหน้าที่จนครบวาระแน่นอน
อย่างไรก็ตามภายหลังจากพล.อ.ประวิตร พูดเสร็จเพียงแค่สั้น ๆ ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาขึ้นในที่ประชุมครม. และทุกคนต่างปรบมือกันดังสั่นหวั่นไหว เหมือนเป็นการให้กำลังใจและแปลกใจปนกันไปในคราวเดียว เพราะที่ผ่านมาแทบจะไม่เคยได้ยินเสียงพล.อ.ประวิตรพูดเลยสักครั้ง ทำให้บรรยากาศในการประชุมครม.หลังจากนั้น คึกคึกขึ้น และเป็นไปด้วยความราบรื่น
แหล่งข่าว เล่าอีกว่า ในการคุยเรื่องงบประมาณนั้น ได้มีรัฐมนตรีหลายคนแสดงความเห็นเพิ่มเติม เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่าไม่อยากให้การอภิปรายงบครั้งนี้ผ่านไปเปล่า ๆ แต่อยากให้ทุกคนแสดงพลังเสียงของรัฐบาลให้ฝ่ายค้านรู้ว่ายังเหนียวแน่น และแน่นแฟ้น พอจะสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งต่อไปได้อีก
ขณะที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็บอกด้วยว่า อยากให้เอาผลงานของรัฐบาลแทรกเข้าไปในการอภิปรายให้เห็นว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วด้วย
อย่างไรก็ตามแม้ในวงประชุมครม.กำลังติวเข้มเรื่องงบกันอย่างหนัก แต่ในช่วงหนึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กลับขอพูดแทรกขึ้นมา โดยขอเล่าถึงเรื่องการเดินทางไปดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ เพราะกลัวว่าจะลืม โดยบอกว่าเร็ว ๆ นี้จะมีคณะจากซาอุดิอาระเบียมาเยือนไทยด้วย
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมั่นใจน่าจะผ่าน
โดยนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ทุกกระทรวงเตรียมชี้แจง เรื่องการนำงบประมาณไปใช้ประโยชน์กับประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะการตอบคำถามฝ่ายค้าน และขอให้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลช่วยอภิปรายสนับสนุน การทำงานของรัฐบาลและให้การสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณด้วย
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า โดยนายกฯย้ำว่าขอให้ช่วยกันชี้แจงและอยู่กันเป็นองค์ประชุมในสภา ช่วยกันลงมติให้ผ่านไปให้ได้ ทำหน้าที่ให้สมบูรณ์และให้รัฐมนตรีอธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงรายละเอียดของงบที่จะนำไปใช้ ให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาล
ทั้งนี้ในภาพร่วมมั่นใจว่าร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ทำมาอย่างดีที่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองในภาวะวิกฤติให้เกิดประโยชน์ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและประชาชน แล้วน่าจะผ่านความเห็นชอบ
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้ามั่นใจว่าจะคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้ รัฐบาลเตรียมการรับมืออย่างไรนั้น ยืนยันว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้าน ที่จะมีความเห็นทางการเมืองต่างจากรัฐบาล ก็ให้ลองทำดูไม่เป็นไร แต่เรามั่นใจว่า เราสามารถรวมเสียงได้และยืนยันว่างบปีนี้จะทำมาอย่างดี
โดยรับฟังความเห็นจากทุกคนที่เกี่ยวข้อง ที่มุ่งหวังจะแก้ประโยชน์เพื่อประเทศ และส.ส. ของรัฐบาลทุกคนทุกพรรคพร้อมที่จะสนับสนุนงบฉบับนี้ ไม่ได้มีปัญหาที่ต้องโหวตคว่ำ และหัวหน้าพรรคพรรคทุกพรรคก็ให้ความมั่นใจในเรื่องนี้จะผลักดันให้ผ่านสภาให้ได้ และเสียงพรรคเล็กที่จะโหวต นั้นพล.อ.ประวิตร คงจะเรียกคุยทุกพรรค ในช่วง 1-2 วันนี้
ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า ในฐานะที่ได้ทำงานอยู่ในรัฐบาลขณะนี้เห็นว่า ยังมีหลายอย่างที่เราอยากทำ
แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 การเก็บภาษีพลาดเป้าเพราะสถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยนั้น ก็เข้าใจถึงข้อจำกัดในหลายๆ อย่าง ดังนั้น ร่าง พรบ.งบประมาณฯ ชทพ.สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม ครม. นายกฯ ได้ขอให้ทุกกระทรวงช่วยกันทำการบ้าน และหากมีประเด็นอะไรของแต่ละกระทรวงขึ้นมาขอให้ชี้แจงให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างทันท่วงที แต่คงไม่ถึงกับว่าฝ่ายค้านพูดปุ๊บตอบปั๊บทันที คงให้ใช้เวลารวมกันและชี้แจงตอบในคราวเดียว