กลายเป็นกระแสฮือฮาขึ้นมาในวงการบันเทิงไทย หลังจาก “เวียร์ ศุกลวัฒน์” หรือ ศุกลวัฒน์ คณารศ พระเอกหนุ่มชื่อดัง ประกาศสละโสด โดยเจ้าตัวออกมายอมรับแล้วว่า เตรียมแต่งงานจริง โดยวางแผนเอาไว้แล้วในวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 นี้
โดยพระเอกดังยอมรับว่า ได้วางแผนมานาน ด้วยวัยก็พร้อมแล้ว ทั้งวัยและจังหวะที่ใช่ และตนเองก็อยากมีอยู่ลูกแล้ว ซึ่งตอนนี้ยอมรับว่า พร้อมเป็นสามี พร้อมเป็นพ่อ และพร้อมเป็นทุกอย่าง และรักครั้งนี้กับแฟนสาว “วิกกี้” ดีที่สุดเพราะคุยกันรู้เรื่อง และก็ยอมรับว่า "วิกกี้" เป็นคนที่เพอร์เฟกต์คนหนึ่ง
สำหรับ “วิกกี้” ว่าที่เจ้าสาวของเวียร์นั้น เธอจบการศึกษาจากเมืองนอก ดีกรีเกียรตินิยม อดีตเคยเป็นแอร์โฮสเตส แถมยังมีโปรไฟล์เลิศ สื่อสารได้หลายภาษา อีกทั้งยังเป็นถึงผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอาง และทำธุรกิจอีกหลายอย่างด้วย
ขณะที่ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” เองนั้น นอกจากจะมีฝีมือในการแสดงแล้ว ในด้านการทำธุรกิจ ก็นับว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีธุรกิจหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับงานในวงการบันเทิง
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกิจของว่าที่เจ้าบ่าว “เวียร์ ศุกลวัฒน์” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผ่านระบบ Creden Data พบว่า พระเอกหนุ่มได้ปรากฎชื่อนั่งเป็นกรรมการในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 10 แห่ง ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับวงการบันเทิง โดยมีสินทรัพย์รวมกันกว่า 263 ล้านบาท ดังนี้
1. บริษัท คือคัก จำกัด
2. บริษัท คูลเฮ้าส์ ผับ แอนด์ เรสเตอรองท์ จำกัด
3. บริษัท มักม่วน จำกัด
4. บริษัท รอนนี่ แอนด์ เวียร์ จำกัด
5. บริษัท โมโต แพชชั่น จำกัด
6. บริษัท โอเพนวิงส์ จำกัด
7. บริษัท น้ำเงี้ยว จำกัด
8. บริษัท หนึ่ง สาม เก้า จำกัด
9. บริษัท เตี๋ยว จำกัด
10. บริษัท ไอติม จำกัด
ส่วนข้อมูลการเป็นถือหุ้นของ เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ พบข้อมูลการถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 6 บริษัทด้วยกัน ประกอบไปด้วย
1. บริษัท คือคัก จำกัด
2. บริษัท คูลเฮ้าส์ ผับ แอนด์ เรสเตอรองท์ จำกัด
3. บริษัท มักม่วน จำกัด
4. บริษัท รอนนี่ แอนด์ เวียร์ จำกัด
5. บริษัท โมโต แพชชั่น จำกัด
6. บริษัท ไดน์นิ่ง โซไซตี้ จำกัด