Patara Fine Thai Cuisine ยลโฉมงาม เสพรสชาติ ข้าวแช่ตำรับไทย

07 พ.ค. 2560 | 04:00 น.
ณ ซอยทองหล่อ 19 บ้านหลังใหญ่ใจกลางกรุงสีเหลืองละมุนขับกับสีเขียวของสนามหญ้าและพรรณไม้นานาชนิด เพียงก้าวข้ามขอบประตูก็รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในเรือนมยุรา สถานที่ซึ่งหยุดเข็มนาฬิกาที่เคยหมุนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันให้จางหายไปพร้อมกับความรัญจวนที่ได้รับจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 เสียงเพลงสากลร่วมสมัย กับการตกแต่งภายใน เครื่องประกอบไม้ แพรพรรณ ภาพวาด และรูปปั้นจากวัสดุต่างๆ ทำให้เรารู้สึกไม่ต่างกับการไปเยือนบ้านของญาติสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน

ความตั้งใจของคุณใหญ่ – ภัทรา ศิลาอ่อน ที่ต้องการยกระดับอาหารไทยให้ชูศักยภาพอันโดดเด่นได้ในระดับสากล ทำให้ “Patara Fine Thai Cuisine” ได้พาเอาเครื่องแกงและกรรมวิธีการปรุงแบบไทยผสมผสานอารยธรรมและวัตถุดิบไปสู่สาขาต่างๆ ถึง 5 ประเทศในปัจจุบัน

รอยยิ้มละไมของพนักงานต้อนรับในชุดไทยประยุกต์สีม่วงดอกกล้วยไม้พาเราไปยังโต๊ะอาหารที่จัดอย่างประณีต เพื่อลิ้มรสเมนูข้าวแช่ที่ได้รับการกล่าวขาน ดุจได้ย้อนภาพไปสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เปิดต่อมรับรสชาติด้วย “ปลาแห้งแตงโม” พิเศษที่เนื้อปลาแห้งทำจากปลาแซลมอล ยกระดับความหอมและรสชาติจากความหวานและเย็นจากเนื้อแตงโมให้โดดเด่นจนคอยข้าวแช่ทั้งสำรับแทบไม่ไหว

กลิ่นหอมมะลิอ่อนๆ ลอยฟุ้งตามน้ำเย็นๆ จากข้าวซึ่งได้รับการหุงแบบโบราณ เพื่อให้ได้ข้าวที่สุกพอดีกับการทานแบบ “ข้าวแช่” ข้าวที่ให้ความนิ่มและความกรอบอ่อนๆ ไปพร้อมๆ กับการคงเมล็ดข้าวให้เรียงสวยในน้ำลอยดอกมะลิตลอดการรับประทาน

mp32-3259-a ในส่วนของเครื่องเคียงนั้นเริ่มต้นคำแรกที่ “พริกหยวกสอดไส้” พริกเม็ดโตคว้านใส้อย่างดีหั่นอย่างพอเหมาะทำให้เราสามารถรับรสชาติและเนื้อสัมผัสของเนื้อไก่ เนื้อปู และความเผ็ดอ่อนๆ จากผิวพริกสีเขียวอ่อนได้แบบเต็มๆ ต่อด้วยเมนูพริกอีกหนึ่งเมนูซึ่งหาทานได้ยากอย่าง “พริกแห้งทอด” ยัดไส้ด้วยปลาแห้งป่นรสออกเค็มอ่อนๆ พกความหอมจากกลิ่นคั่วมาแบบเต็มๆ เข้ากันได้ดีกับน้ำข้าวแช่เย็นๆ เป็นที่สุด เปลี่ยนรสชาติด้วยเครื่องเคียงสุดน่ารัก “มะม่วงมันเดือนเก้า” แกะสลักเป็นรูปมัจฉาตัวน้อย รสเปรี้ยวแบบพอดี พร้อมรับรสชาติคำต่อไปกับ “กะปิทอด” เนื้อละเอียด กรอบนอก นุ่มใน หอมหวานลงไปถึงลำคอ “ไชโป้วหวาน” เส้นเหนียวนุ่มอร่อย เพิ่มความกรุบจาก “ปลาหวาน” เนื้อปลากระเบนฉีกละเอียดนำไปคั่วกับน้ำตาลเมืองเพชร หวานกลมกล่อม ทานกับผักเคียงอย่างกระชาย ต้นหอม และพริกสด ยิ่งเข้ากัน ทานไปเพลินๆ จนข้าวแช่เกือบหมดชาม ที่นี่ยังบริการข้าวแช่แบบไม่อั้น แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าที่ “ภัทรา” จำกัดการทำข้าวแช่ต่อวัน หากไม่อยากพลาดสุดยอดตำรับไทยในคิมหันต์ฤดู ท่านใดแพลนล่วงหน้าไว้โทรสั่งจองไว้จะปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะในเทศกาลข้าวแช่ ซึ่ง “ภัทรา” มีบริการตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมเท่านั้น

คุณโท – นันทิช อัศววิภาส ผู้จัดการร้านมาดเนี้ยบ กล่าวเพิ่มเติมว่า การยกระดับอาหารไทยผ่านการนำวัตถุดิบเกรดพรีเมียมมารังสรรค์เป็นเมนูอาหาร อาทิ มัสมั่นน่องแกะ การคัดสรรเนื้อแกะคุณภาพดีจากนิวซีแลนด์มาตุ๋นด้วยกรรมวิธีแบบดั้งเดิม ให้รสชาติมัสมั่นเข้าเนื้อหอมนุ่มติดใจลูกค้าจนต้องตุ๋นน่องแกะนับร้อยน่องต่อวัน หรือจะเป็นเมนูไทยๆ อย่าง “ยำมะเขือย่าง” ที่เสิร์ฟพร้อมเนื้อปูชิ้นโตและไข่ปลาคาร์เวีย น้ำยำที่นำไข่ต้มสุกมาขยี้ละเอียด เมื่อคลุกเคล้ากับมะเขีอย่างสุก หอมอร่อยจนลืมเคี้ยว ยิ่งได้ทานคู่กับข้าวสี่สี ข้าวหอมมะลิที่จัดเรียงสวยในถ้วยกลม ต้นตำรับสีขาว ข้าวไรซ์เบอร์รีสีม่วง ข้าวหอมมะลิน้ำใบเตยสีเขียว และข้าวหอมมะลิน้ำดอกคำฝอยสีเหลือง อิ่มจนลืมมื้อต่อไปกันเลยทีเดียว

ปิดท้ายด้วยเมนูหวานรับหน้าร้อนประจำร้านอย่าง “ไอศครีมมะพร้าว” และ “ข้าวเหนียวมะม่วง” เพียงเท่านี้ก็รู้ว่ามื้อนี้ของคุณพิเศษขนาดไหน ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ “ภัทรา” ได้รังสรรค์อาหารที่คุ้นเคย แต่นำเสนอในรูปแบบใหม่สไตล์ Comfort Food ผ่านการจัดเป็น Dinner Set สุดพิเศษ เริ่มต้นที่ 5 คอร์ส ในราคาพันต้นๆ ถึงแบบฟูลคอร์ส 7 เมนูคัดสรร นอกจากนั้นเพื่อให้คนไทยและชาวต่างชาติได้เข้าถึงรสชาติความเป็นไทยและจิตวิญญาณของ “ภัทรา” มากขึ้น เราจึงได้ลิ้มรสเมนูอาหารกลางวันมากถึง 12 ชุด ในราคาเริ่มต้นเพียง 290 บาท

ภัทรา (Patara Fine Thai Cuisine) เปิดให้บริการทุกวันใน 2 ช่วงเวลาคือ 11.30 – 14.30 น. และ 18.00 – 23.00 น. สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ 02-185-2360-1

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,259 วันที่ 7 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560