ไมด้า แอสเซ็ท ทุ่ม 5.3 พันล้านบาทขยายลงทุน ผุดโรงแรมใหม่ที่ระยอง ชูจุดขายสุขภาพองค์รวม ผนึก เวลลิตี้ สิงคโปร์ ร่วมลงทุนธุรกิจรับบริหารโรงแรมและเวลเนส แตกไลน์ทำคอนโดมิเนียมที่พัทยา รับอีอีซี ลุยอสังหาฯแนวราบ 3 แห่งในเมืองกาญจน์และนครปฐม
การเติบโตของกลุ่มไมด้า นอกจากการทำไฟแนนซ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยาน รถยนต์ ในนาม “ไมด้า ลิสซิ่ง” ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตลูกหนี้ในมือกว่า 4 พันล้าน และเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ทั้งกลุ่มอยู่ที่ราว 55% แล้ว ทิศทางจากนี้ไมด้า กรุ๊ปยังโฟกัสการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมในนาม “ไมด้า แอสเซ็ท” โดยขณะนี้มีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่อีกกว่า 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนร่วม 5.3 พันล้านบาท ทั้งยังไลน์การลงทุนมาโฟกัสธุรกิจรับบริหารโรงแรมและเวลเนสอีกด้วย
นายวิสูตร เอี้ยวศิริกูล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การขยายการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ของ ไมด้า แอสเซ็ท จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ธุรกิจโรงแรม ซึ่งขณะนี้ทางไมด้า ได้ลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท (รวมที่ดิน) ในการก่อสร้างโรงแรมใหม่ติดหาด บริเวณแหลมแม่พิมพ์ จ.ระยอง บนพื้นที่ 4 ไร่ โดยลงทุนมาปี กว่าแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะเป็นโรงแรมแห่งที่ 9 ของไมด้า
โดยโรงแรมดังกล่าวจะใช้ชื่อว่า “โรงแรมอักษร ระยอง เดอะ เวลลิตี้ คอลเลคชั่น” เป็นคอนเซ็ปต์รีสอร์ต 123 ห้อง เน้นจุด ขายด้านเวลเนส (สุขภาพแบบองค์รวม) ไฮไลต์บริการด้านสุขภาพ อาทิ แซนด์บาร์ธ (แช่ทรายภูเขาไฟ) การเสริมสุขภาพด้วยวิตามิน เกลือแร่ เป็นต้น เพื่อสร้างความแตกต่างในการให้บริการ และรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะเติบโตต่อเนื่อง จากนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ของรัฐบาลที่จะดึงดูดทั้งการลงทุนและการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกมากขึ้น
นอกจากนี้ไมด้ายังได้ร่วมลงทุนกับเวลลิตี้ (Wellity Pte.Ltd.) ผู้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ด้านบริษัทบริหารการจัดการโรงแรมแนวสุขภาพชั้นนำจากสิงคโปร์ ลงทุนร่วมกันในสัดส่วน 51:49 จัดตั้งบริษัท “เอ็มดับเบิ้ลยู เวลเนส แมเนจเมนท์ (MW Wellness Management Co., Ltd.) เพื่อดำเนินธุรกิจบริหารโรงแรมและธุรกิจเวลเนส โดยจะนำร่องบริหารโรงแรมแห่งใหม่ที่ระยองของไมด้าเป็นแห่งแรก
จากนั้นก็มองจะขยายการรับบริหารให้ผู้ประกอบการราย อื่นๆ ที่สนใจ ซึ่งมีทั้งการรับบริหารโรงแรม รับบริหารธุรกิจด้านเวสเนส และโรงแรมที่มาด้านเวลเนสควบคู่ไปด้วย อาทิ การเจรจาเข้าไปบริหารโครงการเดอะ พาโนรา ภูเก็ต เนื่องจากเป็นธุรกิจด้านเวลเนส มีการเติบโตสูง จากกระแสการรักสุขภาพ และการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
อีกทั้งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางไมด้าเพิ่งจะรีแบรนด์ โรงแรมที่หัวหิน จากเรดิสัน บลู รีสอร์ต หัวหิน มาเป็นโรงแรม เอจ ออฟ หัวหิน เนื่องจากมีความมั่นใจว่าจากประสบการณ์ในการบริหารและลงทุนโรงแรมของเราหลายแห่ง อาทิ ไมด้า แอร์พอร์ต โฮเทล กรุงเทพฯ, ไมด้า โฮเทล งามวงศ์วาน, ไมด้า เดอ ซี หัวหิน, ไมด้า รีสอร์ต กอล์ฟ คลับ กาญจนบุรี, ไมด้า รีสอร์ต กาญจนบุรี, ไมด้า ทวารวดี นครปฐม, เซ็น โฮเทล นครปฐม ก็มั่นใจว่าเรามีศักยภาพที่จะบริหารโรงแรมเองได้ประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องใช้เชนจากต่างประเทศ
ทั้งยังได้สร้างห้องสำหรับโรงแรมที่กาญจนบุรี เพิ่มอีก 99 ห้อง จากเดิมที่มี 80 แห่ง และห้องประชุมขนาดใหญ่รองรับได้ 600 คน ซึ่งสร้างเสร็จเรียบร้อย จากการขยายการลงทุนที่เกิดขึ้น ทำให้ไมด้า จะผลักดันการเติบโตรายได้จากธุรกิจโรงแรมในปีนี้เพิ่มขึ้นราว 20%
ในส่วนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้ไมด้า มีแผนขยายการลงทุนสู่ธุรกิจคอนโดมิเนียม จากเดิมที่ทำแต่โครงการอสังหาฯแนวราบ โดยมองช่วงปลายปีนี้ มีแผนจะสร้างคอนโดมิเนียม ที่พัทยาสูง 30 ชั้น บริเวณเขาพระตำหนัก หลังจากได้ไปซื้อที่ดินมาทั้งหมดกว่า 3 ไร่ ราคาไร่ละ 70 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 2 ปีครึ่ง มูลค่าการลงทุน 1.7 พันล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายในช่วงต้นปีหน้าราคา 1.2 แสนบาทต่อ ตารางเมตร เน้นกลุ่มลูกค้าจากต่างประเทศ รองรับคนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซี
รวมไปถึงอยู่ระหว่างการลงทุนอสังหาฯแนวราบ ที่เป็นบ้านเดียวและทาวน์เฮาส์แนวใหม่ ที่อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ในโครงการกาญจนบุรี แกรนด์ วิลเลจ ขนาด 300 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายได้ในเดือนสิงหาคมนี้ และโครงการเดอะทาวน์หนองดินแดง จ.นครปฐม ขนาด 450 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท และโครงการเดอะทาวน์ ประปานคร นครปฐม ขนาด 400 ยูนิต มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการนี้คาดว่าจะเปิดขายได้ภายในปลายปีนี้ ซึ่งเราคาดหวังการเติบโตในธุรกิจอสังหาฯแนวราบอยู่ที่ 20% นายวิสูตร กล่าวทิ้งท้าย
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3368 ระหว่างวันที่ 24-26 พ.ค. 2561