สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ประกาศความพร้อมจัด “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23” และ “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 เริ่ม17-28 ตุลาคม 2561 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” ชม นิทรรศหนังสือสาบสูญ 3018/ นิทรรศการสำหรับเด็กและครอบครัว Wonder Land ดินแดนค้นพบตัวตน และนิทรรศการเยาวชน ท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU…จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม พร้อมเวทีเสวนาและกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมายตลอด 12 วัน
นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เผยว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23” ถือเป็นงานแสดงหนังสือระดับชาติที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดานักอ่านมาตลอด โดยจัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” การอ่านออกเสียง คือ การอ่านให้มีเสียงดัง เป็นการอ่านเพื่อส่งสาร การอ่านออกเสียง ยิ่งออกเสียงดังเท่าไร ก็จะช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ง่ายและได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้อ่านถึงจะอ่านหนังสือหรือบทความเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน จึงต้องออกเสียง เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน หนังสือและการอ่านจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันโดยตรงนั่นเอง และพิเศษสุดคือการจัดงาน “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ขึ้นพร้อมกัน ทำให้งานครั้งนี้เป็นงานสำหรับทุกเพศและทุกวัยอย่างแท้จริง
“ปีนี้ในงานมีนิทรรศการหลักๆ อยู่ 3 นิทรรศการ เริ่มจากนิทรรศการ ‘หนังสือสาบสูญ 3018’ บริเวณหน้าห้องเพลนารีฮอลล์/ นิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน ที่ห้องมีทติ้งรูม 1-2 และ นิทรรศการ ‘ท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU… จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม’ โซนฮอลล์เอ นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการ ‘หนังสือติดดาว’/ นิทรรศการ ‘100ABCD’/ นิทรรศการ ‘TK Book Rally รู้จักกันผ่านหนังสือ’ และนิทรรศการ ‘สื่อสิ่งพิมพ์จีนสัญจร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2’ รวมทั้งนิทรรศการอื่นๆ ที่จัดแสดงโดยหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่จะจัดแสดงให้ชมในงานครั้งนี้อีกด้วย”
“นิทรรศการหนังสือสาบสูญ 3018” เริ่มมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ‘หนังสือ 99.5% สูญสลายหายไปตามกาลเวลา และมีเพียงส่วนที่เหลือไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำที่จะสามารถคงอยู่ต่อไป’ ผู้ชมนิทรรศการจะจินตนาการไปสู่โลกอนาคต กับภาพจำลองของห้องเก็บข้อมูลในยามที่หนังสือไม่มีอยู่อีกแล้ว สิ่งที่คงเหลือไว้คือประวัติศาสตร์ และปูมบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกหนังสือและการอ่านที่เปลี่ยนแปลงตลอดมา เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่า ‘ผู้อ่าน’ มีส่วนตัดสินชี้ขาดความเป็นไปของหนังสือหรืองานเขียนต่างๆ อย่างไร เฉกเช่นเดียวกับสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ที่เราจะเข้าใจได้ก็เมื่อทุกอย่างได้ดำเนินมาสู่จุดสิ้นสุด ซึ่งในนิทรรศการจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เช้าชมได้ร่วมสนุกอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ได้แก่
“นิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน” นิทรรศการสำหรับเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี เพื่อให้เด็กได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจ จากโซนกิจกรรม 10 ฐานที่ทั้งสนุกและสร้างการเรียนรู้แตกต่างกันไป โดยการเข้าชมนิทรรศการนี้ เด็กๆ จะต้องเข้าไปกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เพื่อทำกิจกรรมแต่ละฐานร่วมกัน และมีของที่ระลึกพิเศษมอบให้หากร่วมกิจกรรมครบทุกฐาน
“นิทรรศการท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU… จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม” นิทรรศการระดับโลกที่ผ่านการจัดแสดงทั้งใน กรุงปารีส เซี่ยงไฮ้ โตเกียว และไทเป และส่งตรงมางานมหกรรมหนังสือที่ กรุงเทพฯ โดยนำภาพสเก็ตช์และสตอรี่บอร์ดจริงของ Hosoda Mamoru (โฮโซดะ มาโมรุ) ผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะชื่อดัง และผลงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ล้วนมาจากภาพยนตร์ของเขาที่เข้าฉายในประเทศไทย และได้รับการตีพิมพ์เป็นนิยายและหนังสือการ์ตูนในฉบับภาษาไทยอีกด้วย และครั้งแรกสำหรับงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนที่จะเชิญเด็กจากชุมชนปีนัง ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่พวกเขากลับไม่เคยมีโอกาสได้เข้ามาร่วมงานเลย โดยจะเชิญมาเป็นแขกพิเศษร่วมงานเปิดนิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน และมอบบัตรของขวัญ เพื่อนำไปซื้อหนังสือจากในงานอีกด้วย
ด้านเวทีเสวนาหรือเวทีเอเทรียม ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกจับตามอง ในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษให้กับโครงการหนึ่งอ่านล้านตื่น ในหัวข้อ “การอ่านสร้างนวัตกรรม” ในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 11.00 น. อีกหนึ่งรายการสำคัญจากทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คือการเสวนาในชื่อว่า “เสียงที่ไม่(เคย)ได้ยิน” ซึ่งจัดขึ้น 2 วัน เริ่มจากวันที่ 18 ตุลาคมจะเป็นเวทีภาคประชาชน ผู้ร่วมเสวนาจะได้แก่ เดย์ ฟรีแมน นักแสดงนางโชว์ตัวแม่และนักอ่านตัวยง บังเจ๊ะหัน ยะลา ชาวบ้านจากกระบี่ ผู้พลิกชีวิตจากศูนย์เป็นล้านด้วยความรู้จากการอ่าน พลอย-สโรชา กิตติสิริพันธุ์ นักเขียนผู้ดวงตาพิการ เจ้าของวรรณกรรมเยาวชน “จนกว่าเด็กปิดตาจะโต” อักษรศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท นักเขียนซีไรต์ที่อายุน้อยที่สุด
วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม จะเป็นเวทีภาคการเมือง ซึ่งจะมีพรรคการเมืองต่างๆ ส่งผู้แทนเข้าร่วมเสวนาแนวคิดและความเห็นเกี่ยวกับหนังสือและการอ่านในประเทศไทยจากมุมมองของนักการเมือง โดยทั้ง2 วันจะเริ่มเวลา 17:00-19:00 น. นอกเหนือจากนี้ ยังจะมีการเสวนาและการเปิดตัวหนังสือใหม่ จากผู้มีชื่อเสียง อาทิ ท่าน ว วชิรเมธี ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ดร. มีชัย วีระไวทยะ น้าเน็ก - เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทนายษิทรา เบี้ยยังเกิด และ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ที่มากับ อาเลย์ดา เกวารา บุตรสาวคนโตของเช เกวาราบินตรงจากคิวบา เพื่อร่วมงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดการเสวนาและกำหนดการเวทีเสวนาได้จาก www.facebook.com/Bookthai
พิเศษสุด โปสการ์ด “อ่านออกเสียง” Limited Edition การผนึกลายเส้นครั้งสำคัญจาก 17 นักวาด ชั้นนำและสำนักพิมพ์ชื่อดัง เริ่มจาก Art Jeeno/ Eat all day/ Jaytherabbit/ Sisidea/ คิ้วต่ำ/ เดอะดวง/ ตัวกลม/ ปังปอนด์/ มะม่วง/ มุนิน/ หนูหิ่น/ หัวแตงโม/ สำนักพิมพ์แจ่มใส/ สำนักพิมพ์นาบู/ สำนักพิมพ์พราว/ สำนักพิมพ์พูนิก้า และสำนักพิมพ์อี.คิว. พลัส แจกฟรีให้กับผู้เข้าชมงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 23 และสำหรับหนอนหนังสือนักเดินทาง ต้องมารับหนังสือ Guidebook ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จากกรมการพัฒนาชุมชนที่จะนำมาแจกฟรีอีกเช่นกัน
พบกับหนังสือราคาพิเศษที่คัดสรรมาให้เลือกกว่า 1,000,000 เล่ม จากสำนักพิมพ์ 376 ราย รวมทั้งสิ้น 931 บูธบนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร มาร่วมอ่านออกเสียงให้ดังสนั่นที่ “งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23” และ “เทศกาศหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ระหว่างวันพุธที่ 17- วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561 รวมทั้งสิ้น 12 วัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์