เมืองเล็กๆริมแม่น้ำโขงกับดินแดน 3 วัฒนธรรม ลานช้าง ไทดำ อีสานพื้นถิ่น และทัศนียภาพงดงามริ่มฝั่งโขง ไม่เพียงเป็นเสน่ห์เมือง เชียงคาน แหล่งท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน แต่ล่าสุดยังมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่สร้างสีสันให้การท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาวนี้
ว่าแล้วก็จองเลยค่ะตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพฯบินตรงสู่ จังหวัดเลย จากสนามบินเรามีหลายทางเลือกในการเดินทางไปเชียงคาน ถ้าสะดวกขับรถ ก็เช่ารถขับชิลล์ๆ หรือจะเหมาแท็กซี่ ราคาอยู่ที่ราว 600 บาทต่อเที่ยว หรือจะใช้บริการรถตู้รับส่งสนามบิน-ถนนคนเดิน ก็อยู่ที่ 250 บาทต่อคน
ในเชียงคานมีเกสต์เฮ้าส์ที่พักเก๋ๆมากมายราคาสบายกระเป๋า ชอบที่ไหนเดินไปเช็คอินกันได้เลย ที่นี่ไม่ได้มีจุดเด่นที่ “ถนนคนเดิน” หรือ การขึ้นไปชมทะเลหมอก ที่ “ภูทอก” เท่านั้น
แต่ปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวเกิดขึ้นใหม่ที่เชื่อมโยงสู่ “ภูคกงิ้ว” ที่เราสามารถขึ้นไปสักการะ ขอพรจาก “พระใหญ่ภูคกงิ้ว” หรือ พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่ ภูฟ้า บ้านท่าดีหมี
พร้อมๆไปกับการชมทัศนียภาพบน “สะพานสกายวอล์ค” ที่เปิดให้เข้าชมกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึงเย็น แนะนำว่าช่วงเวลาที่สวยที่สุด คือ ช่วงพระอาทิตย์ตก สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของแม่นํ้าเหือง จากฝั่งลาว ไหลมาบรรจบแม่นํ้าโขง เกิดเป็นแม่นํ้า 2 สีได้อย่างชัดเจน
สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว เป็นที่เที่ยวใหม่ของเชียงคาน เป็นสกายวอร์คที่สูงเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้น ไฮไลท์อยู่ที่ทางเดินกระจกยาวกว่า 100 เมตร ทั้งเสียว ตื่นเต้นพอดู
โลเคชั่น : บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
ทั้งนี้แหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือขององค์กร และหน่วยงานต่างๆ เข้าไปพัฒนาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของ จ.เลย ซึ่งทางจังหวัดยังได้ร่วมมือกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. ในการเข้าไปวางแผนการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว และเพิ่มศักยภาพชุมชนรอบภูคกงิ้ว เข้าสู่การให้บริการการท่องเที่ยวโดยนำเอาอัตลักษณ์ที่มีความแตกต่าง และโดดเด่นมาเป็นจุดขาย ในการสร้างรายได้ให้กับชุมชน
จึงเป็นที่มาของการเชื่อมโยงและพัฒนาเป็นจุดพัก เพื่อลดการแออัดของจำนวนนักท่องเที่ยว ก่อนที่เข้าสัมผัสชมธรรมชาติบนสกายวอล์ค ภายใต้มาตรฐานการท่องเที่ยวใหม่ในยุค“นิว นอร์มอล” (New Normal)
วิถีการท่องเที่ยวของนักเดินทาง สู่เชียงคาน คงไม่สิ้นสุดเพียงแค่ชุมชนวิถีริมน้ำโขง แต่ยังสามารถเข้าไปซึมซับอีกวัฒนธรรมที่เป็นเชื้อสายไทดำ ในประเทศไทย
ปัจจุบันมีชุมชนไทดำกระจายตัวไปตามพื้นที่ต่างๆ เช่น อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี และอ.บางแพ จ.ราชบุรี ส่วนภาคอีสาน มีเพียงแห่งเดียว คือ “บ้านนาป่าหนาด” ต.เขาแก้ว เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ประกอบไปด้วย 300 ครัวเรือนซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา อยู่ห่างจาก อ.เชียงคาน เพียง 20 กิโลเมตร
หมู่บ้านวัฒนธรรมไทดำแห่งนี้จึงเป็น หมู่บ้านของชาวไทดำ หรือ ลาวโซ่ง ที่อพยพมาจากเมืองเชียงขวาง ประเทศลาว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2448 ปัจจุบันที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่เผยแพร่ข้อมูล วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวไทดำ ที่ยังคงสืบสานวิถีชาติพันธุ์ มาจวบจนปัจจุบัน ทั้งในเครื่องแต่งกาย วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และการละเล่นต่างๆ ที่ล้วนแล้วสื่อถึงความเชื่อทางธรรมชาติที่กำหนดการดำรงชีวิตความเป็นอยู่ได้อย่างลงตัว
โลเคชั่น : หมู่ที่ 4 บ้านนาป่าหนาด ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/iTMXFHrWf6urg3FL7
ที่นี่จึงเป็นโมเดลพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ ภายใต้ “ศูนย์วัฒนธรรมไทยดำ” แหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิต พร้อมส่งต่อให้นักเดินทางได้เข้ามารู้จักเรื่องราว ผ่านเส้นทาง “ถนนโคมไฟไทยดำ”
ที่มีการนำโคมไฟที่ดัดแปลงมาจากตุ้มหนู (กรง) และ ตุ้มนก (กรง) ซึ่งชาวบ้านเคยใช้เป็นเครื่องลางแสดงถึงความโชคดีของชุมชนที่แขวนไว้หน้าบ้านทุกหลัง มาเรียงร้อยบนถนนสายหลักของหมู่บ้าน สว่างไสวกว่า 300 เมตร พร้อมยังนำวิถีอาหาร และมีของฝาก ของที่ระลึก เก๋ๆแตกต่างจากแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
บรรยากาศน่ารักแบบนี้ทำเราหลับฝันดี ก่อนเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยทิวทัศน์สองฝั่งโขงยามเช้า และที่ขาดไม่ได้กับการเที่ยวเชียงคาน คือ การเดินเล่น “ถนนคนเดินเชียงคาน” เดินกันเพลินตั้งแต่ถนนชายโขงซอย 5 ไปจนถึงซอย 20 ที่นี่มีสินค้าแฮนด์เมด ร้านอาหารพื้นเมือง ร้านกาแฟเก๋ๆน่ารัก เดินชิลล์ยามเย็นสนุกเลย ไม่ร้อนแดด
โลเคชั่น : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
พิกัด : https://goo.gl/maps/R3XgyifiuXidhv5Z9
วันนี้เชียงคานไม่ได้เป็นที่รู้จักแค่นักท่องเที่ยวไทยเท่านั้น เชียงคาน ยังเข้ารอบ 1 ใน 100 แหล่งท่องเที่ยวคุณภาพยั่งยืนระดับโลก หรือ Sustainable Destinations TOP 100 อีกด้วย
น่าภูมิใจจังกับโมเดลเชียงคาน ที่มีการพัฒนา กิจกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงสร้างแลนด์มาร์ค ที่เป็นนวัตกรรมยุคใหม่ เพื่อสร้างจุดขาย แต่ต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม โดยอาศัยต้นทุนทางธรรมชาติที่มีความหลากหลายของระบบนิเวศ ซึ่งเป็นความได้เปรียบของประเทศไทย เป็นกลไกในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในแบบการท่องเที่ยวยั่งยืน
ช่วงนี้การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยยังมีข้อจำกัดอยู่ แต่ก็เริ่มเห็นมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินเที่ยวอยู่บ้าง ซึ่งก็ได้คำตอบว่าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่พำนักระยะยาวหรือทำงานในไทย หรือกลุ่ม Expat จากแคมเปญ Explore the Unseen Thailand หรือ “เรารู้จักกันดีพอหรือยัง” ภายใต้แนวคิดของ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ทดลองโปรโมทเส้นทางการท่องเที่ยวเชียงคานให้กับกลุ่ม Expat
มาแล้วหลงรัก "เลย” อ่ะ
คอลัมภ์ : ดีแต่เที่ยว (เช็คที่กิน ฟินเรื่องเที่ยว)
BY ธนวรรณ วินัยเสถียร
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
คุ้มอ่ะจ่ายพันบาทก็ได้ที่พักติดทะเล "เซ็นทรา ชะอำ บีช รีสอร์ท หัวหิน"
อิ่มพุงกาง คาราวานบุฟเฟ่ต์อาหารจีนราคาหลักร้อย “สเตลล่า พาเลซ”
ว๊าวๆ “ เวโรน่า แอท ทับลาน” นึกว่ามาเที่ยว “อิตาลี” ที่แท้อยู่แค่ปราจีนบุรี
เที่ยว “สมุย” ขึ้น "เกาะมัดสุม" ไปหา หมูทะเล ( END)
เที่ยว “สมุย” ไปหา“หมูทะเล” ( Ep.1)