ทะเลหมอกส่วนตัว ที่ "กิ่วตะเคียนงาม"

ทะเลหมอก "กิ่วตะเคียนงาม" ถือเป็นที่เที่ยวประทับใจอีกแห่งหนึ่งของ "คุณเดียว" เขียนบรรยายไว้อย่างน่าติดตาม และน่าสนใจมากๆ จากความบังเอิญ ที่ไปเปิดเจอรีวิวจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น ระหว่างขับรถหาที่กางเต้นท์ ที่พาน้องหมาสามเอ๋งเข้าไปด้วยได้ แถวอุทยานแห่งชาติ ศรีสัชนาลัย จุดชมวิวของชุมชนปางตะเคียน ที่เห็นรูปแล้วสวยอลังการ ควรแก่การไปกางเต็นท์นอนชมวิวมาก...แล้วใครจะไปคิดว่า ชีวิตนี้จะมีโอกาส ได้เป็นเจ้าของวิวทะเลหมอก แบบไม่ต้องเจอทะเลคน ตื่นเช้ามาเปิดหน้าเต็นท์ ก็ว้าวเลย เป็นทะเลหมอกส่วนตัวครั้งแรกในชีวิต

ทริปทะเลหมอกส่วนตัวครั้งนี้ "คุณเดียว"  โทรหา อบต.วัชรพล ที่เบอร์ 085 604 6221 ตามที่ให้ไว้ในรีวิว ซึ่งทาง อบต.อาสาจัดการทุกอย่างให้ เพียงแค่ต้องเดินทางไปถึงโรงเรียนปางสา ภายในห้าโมงเย็น...ให้ทัน แต่ก็เกือบจะไม่ทัน เหตุเพราะ เจอเส้นทางลัดใน Google Map ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร รบกวนให้ติดตามรายละเอียดอันสุดระทึกได้ที่ #เที่ยวอย่างเดียว แต่เอาเป็นว่า ในที่สุด "คุณเดียว" ก็ไปถึงบ้านปางตะเคียน ทัน 5 โมงเย็นพอดี ซึ่งถ้ามาข้ากว่านี้ จะอดขึ้นเขา เพราะจะมืดค่ำซะก่อน มันอันตราย

อบต. จัดรถอีแต๊ก พร้อมลูกหาบ และชาวบ้าน ไปนอนบนดอยเป็นเพื่อน รวม 6 ชีวิต อีแต๊กพาลัดเลาะ ไปตามทางกลางหุบเขา และสวนส้ม ประมาณ 20 นาที มาถึงทางขึ้นดอย ระยะทาง 300 เมตร แต่เป็นสามร้อยเมตร ที่ขึ้นเขา 45 องศา ถึงจะมีขั้นบันไดที่ชาวบ้านช่วยกันขุดดินทำทางสะดวกไว้ แต่ความชัน ทำเอาขาตึงใช้ได้เลย...เคยขึ้นภูกระดึงว่ายาก ยังไม่เหนื่อยขนาดนี้ เพราะที่นี่ไม่มีพื้นราบให้สลับเดินพักเมื่อยเลย ต้องปีนไปหาที่พักไป ใช้เวลา 30 นาที ก็ถึงยอดเขา ทันแสงสุดท้ายแบบฉิวเฉียด

จัดแจงกางเต็นท์ เตรียมอาหาร มื้อนี้ ต้มมาม่าใส่ไข่และลูกชิ้น หรูสุดแล้ว ส่วนลูกหาบก่อไฟ ย่างหมู กลิ่นหอมยั่วยวนมาก   ลุงนำทาง เอาหมูปิ้งมาให้ น้องข้างเต็นท์ คนพื้นที่ที่มาถึงก่อนหน้า เอาข้าวเหนียวและเสบียงมาแบ่งปัน มันเป็นบรรยากาศอบอุ่นแบบบ้านๆ ดีเหลือเกิน

พอมืดปุ๊บ ดาวขึ้นระยิบเต็มฟ้า สวยมากๆ สองทุ่ม ทุกคนเข้าเต้นท์นอน มีโชว์ดาวตกพุ่งละลายหายไปบนฟ้าให้ดูเป็นระยะ เสียงจิ้งหรีดขับกล่อมร้องข้างๆ หู ลมหนาวคืนนี้กำลังเย็นสบาย นอนหลับๆ ตื่นๆ ลุกมาดูดาวเป็นระยะ นึกถึงเช้าวันพรุ่งนี้แล้ว มันตื่นเต้น ถ้าตรงปกตามรีวิว ตื่นเช้า ทะเลหมอก จะมาเยือนถึงหน้าประตูเต็นท์เลย 

และแล้ว...เช้าวันใหม่ก็มาถึง "คุณเดียว" บรรยายว่า มันทำให้นึกถึง ป้ายข้างทาง ให้กำลังใจตอนขาขึ้นดอยกิ่วตะเคียนงาม บอกไว้ว่า “คนขี้แพ้ ย่อมไม่เห็นความเบิกบานใจ”...ฟ้ายิ่งสว่าง ก็ยิ่งเห็นหมอกหนาตาขึ้นเรื่อยๆ หกโมงสี่สิบห้า... ภาพตรงหน้ามันบอกว่า ถ้าเรายอมแพ้ ตั้งแต่หลงทางกลางป่าวันวาน จะไม่เห็นความเบิกบานที่น้อยคนนักจะได้สัมผัสอย่างนี้ ...จริงๆ  ️

หลังจากดื่มด่ำกับวิวส่วนตัวพันล้าน ถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว เจ็ดโมงครึ่ง เก็บสัมภาระพร้อมขยะลงจากดอย เพื่อมาอาบน้ำล้างหน้าที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ได้แลกเปลี่ยนกับผู้ใหญ่ เลยได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กิ่วตะเคียนงาม ชุมชนนี้เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างถิ่นขึ้นไปเที่ยวได้ 2 ปี ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น การจัดการในชุมชนก็ยังขลุกขลัก แต่การร่วมแรงร่วมใจอย่างแข็งขัน ทำให้ที่นี่เป็นที่รู้จักมากขึ้นแบบปากต่อปาก

จุดชมวิวบนดอยมีแผนจะพัฒนาปรับพื้นที่ เพื่อเปิดเฟสต่อไปด้านทิศตะวันตก เพื่อเป็นจุดชมวิวตอนพระอาทิตย์ตกดินนักท่องเที่ยวจะได้ใช้เวลาบนดอยได้คุ้มค่ามากขึ้น และกำลังจะปรับปรุง สร้างแคร่ไม้ไผ่สำหรับกางเต็นท์ และเดินท่อน้ำจากสวนส้มด้านล่างทำห้องน้ำใหม่อีกครั้ง หลังจากโดนไฟป่าเผาไปเมื่อช่วงต้นปี

"คุณเดียว" เสนอผู้ใหญ่ว่า ข้าวเหนียวหมูย่างเมื่อคืนอร่อยมาก ให้ชุมชนผูกแพ็คเกจอาหารกับค่ากางเต็นท์ราคาแบบ homestay ไปเลย เพื่อสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน เส้นทางผ่านด้านล่างที่เป็นสวนส้ม ก็พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกสิกรรม เก็บส้มเอง เพราะเมื่อวานคนขับรถอีแต๊กแบ่งส้มให้ถุงนึง การันตีว่า ส้มที่นี่หวานมากๆ สินค้าชุมชนมีอะไร ก็เอามาขายนักท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ที่นี่นานๆ เศรษฐกิจก็เริ่มหมุนเวียน มีเงินทุนมาพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน

"คุณเดียว" เล่าต่อว่า จ่ายค่ากางเต็นท์ 100 บาท นำทาง 300 บาท ค่ารถอีแต๊ก 400 บาท และทิปให้ลูกหาบที่ช่วยขนของและนอนเป็นเพื่อน อีก คนละ 200 บาท ทั้งหมดนั่น เป็นเพราะอยากให้กำลังใจ ชาวป่าตะเคียน เพราถ้าจะว่าไปแล้ว...แค่ภาพดาวเต็มฟ้า และทะเลหมอกตอนเช้าที่ได้เห็นและสัมผัส แลกกับความงดงามของธรรมชาติ และความประทับใจที่ได้กลับมา... มันเกินคุ้มจริงๆ

เป็นไงล่ะ #เที่ยวอย่างเดียว เฟส 2

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 24 ฉบับที่ 3,639 วันที่ 27 - 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563