นายบุญธรรม กังแฮ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อผลิตอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัยส่งมอบให้ผู้บริโภค ซึ่งโรงเพาะฟักลูกกุ้ง เป็นต้นทางของการผลิตอาหาร มีระบบการเลี้ยงและอนุบาลลูกกุ้งที่สะอาดปลอดจากเชื้อก่อโรค ปราศจากสารตกค้าง และมีระบบการตรวจสอบย้อนกลับทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของลูกกุ้ง
รวมไปถึงความใส่ใจในขั้นตอนการขนส่งลูกกุ้ง ที่บริษัทฯ จ้างงานคนในชุมชนมาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีประสบการณ์ดูแลลูกกุ้งเป็นอย่างดีระหว่างการขนส่ง และยังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในช่วงโควิด -19 ซึ่งยังต้องมีการขนส่งลูกกุ้งให้เกษตรกร ทำให้ชุมชนที่รับจ้างขนส่งลูกกุ้งมีรายได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการดูแลเกษตรกรที่เป็นคู่ค้ากับซีพีเอฟ โดยเกษตรกรเหล่านี้จะรับลูกกุ้งไปลงในบ่อดิน เพื่อเลี้ยงและจำหน่ายต่อไป
" บริษัทฯ มีนโยบายสนับสนุนชุมชนให้มีรายได้ที่มั่นคงและเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันโรงเพาะฟักลูกกุ้งของซีพีเอฟทั้ง 4 เขต คือ เขตภาคกลาง-ตะวันออก เขตอ่าวไทยตอนบน เขตอ่าวไทยตอนล่าง และเขตอันดามัน จ้างงานชุมชนขนส่งลูกกุ้งรวมกว่า 600 คน โดยในช่วงโควิด-19 โรงเพาะฟักฯทุกแห่ง เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยของบริษัท ทั้งสถานประกอบการสะอาด คนสะอาด ดูแลคนงานและพนักงานทุกคนรวมไปถึงครอบครัวให้ปลอดภัย และดำเนินการตามมาตรการของหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด" นายบุญธรรม กล่าว
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด -19 โรงเพาะฟักลูกกุ้งทุกแห่ง ได้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติของสาธารณสุขของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด โดยได้ร่วมกับสาธารณสุข จัดตรวจให้กับพนักงาน คนงาน และทีมรถขนส่งลูกกุ้งอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งบริษัทฯ มีนโยบายในการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยของบริษัท และมาตรการแนวปฏิบัติของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด -19 โรงเพาะฟักลูกกุ้งทุกแห่ง ยังได้ดูแลทีมรถขนส่งลูกกุ้ง อาทิ โรงเพาะฟักลูกกุ้งภาคตะวันออก จ.ตราด ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอแหลมงอบ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)บ้านธรรมชาติล่าง ตรวจคัดกรองเชิงรุก ด้วย RT-PCR (SWAB) ให้กับทีมรถขนส่งลูกกุ้ง ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านธรรมชาติล่าง โดยจัดตรวจให้ทีมรถขนส่งลูกกุ้งอย่างสม่ำเสมอ โรงเพาะฟักลูกกุ้งตะวัน อ.ตะกั่วป่าจ.พังงา โรงเพาะฟักลูกกุ้งโคกกลอย 2 และ3 และโรงเพาะฟักลูกกุ้งพรหมเทพ จ.ภูเก็ต ดำเนินการตามแนวปฏิบัติของจังหวัด สำหรับผู้ที่เดินทางเข้า-ออกพื้นที่ โดยต้องมีหนังสือรับรองความจำเป็นในการเดินทาง ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด -19 และเมื่อเดินทางกลับเข้าพื้นที่ ต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่รับรายงานตัว เป็นต้น
นายณรงค์วิทย์ ตรีเทพ หรือ เห็ด วัย 46 ปี อาชีพรับจ้างขับรถขนกุ้งของโรงเพาะฟักลูกกุ้งปะทิว จังหวัดชุมพร กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 โรงเพาะฟักลูกกุ้ง ใช้มาตรการควบคุมความปลอดภัยอย่างเข้มงวด รวมไปถึงผู้ที่รับจ้างขนส่งลูกกุ้ง ที่ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด อาทิ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สวมถุงมือ มีเจลแอลกอฮอล์ในรถ ขั้นตอนก่อนเข้าโรงเพาะฟักต้องทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรค และจำกัดรถที่จะเข้าไปรับลูกกุ้ง ไม่ให้เข้าไปแออัด
นายจำเริญ จันท์เณร หรือ เริญ อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้างขับรถขนส่งลูกกุ้ง ของโรงเพาะฟักลูกกุ้งปะทิว มา 5 ปีแล้ว เล่าว่า จากการถูกเลย์ออฟพนักงาน จึงกลับมาหางานทำที่บ้าน และได้ทำงานกับซีพีเอฟ โดยต้องป้องกันความปลอดภัยของตัวเอง และทางโรงเพาะฟักลูกกุ้ง มีมาตรการป้องกันความปลอดภัยอย่างเข้มงวด