“อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา” เป็นคำกล่าวไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด โดยเฉพาะในท้องถนนการขับขี่รถด้วยแล้ว ต้องมีเคลียร์ให้จบแบบราบรื่น ทั้งผู้ขับเอง และคู่กรณี ซึ่งมี 5 สิ่งที่ต้องทำทันทีเมื่อรถโดนชน ดังนี้
1.ตั้งสติ และหยุดรถทันที
เป็นสิ่งแรกที่ควรนึกถึง ไม่ว่ารถจะชนกับอะไรก็ตาม แม้จะเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยหรือใหญ่หลวง ขอให้มีสติเอาไว้ให้มากที่สุดและหยุดรถทันที เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ และเปิดไฟขอทางหรือทำสัญญาณเตือนรถที่ขับตามมา
2. ติดต่อบริษัทประกันภัย
ติดต่อบริษัทประกันภัยที่ใช้บริการอยู่ แจ้งเลขที่กรมธรรม์ หรือ ทะเบียนรถยนต์ พร้อมแจ้งสถานที่เกิดเหตุ และเบอร์ติดต่อกลับ หลังจากนั้นประกันจะมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบถามรายละเอียดที่เกิดขึ้น
3. การให้ข้อมูล เก็บข้อมูล ต้องพูดจากันอย่างใจเย็น
ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ ชื่อ ที่อยู่ เลขทะเบียนรถและชื่อประกันที่คุณมี แก่คู่กรณีหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอย่าเพิ่งพูดขอโทษถ้ายังไม่แน่ใจว่าใครเป็นฝ่ายผิด เพราะอาจเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งกล่าวอ้างได้ อีกทั้งไม่ควรกล่าวโทษอีกฝ่าย การกล่าวโทษคู่กรณีอาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ที่สำคัญ ต้องพูดจากันอย่างใจเย็น จำไว้ว่า คุณไม่มีอำนาจตัดสินว่าใครผิดใครถูก ในระหว่างที่รอควรลงจากรถมาสำรวจความปลอดภัย ถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐาน รอให้เจ้าหน้าที่เคลมประกันภัยรถยนต์มาช่วยดูที่เกิดเหตุก่อน
4. โทรแจ้งตำรวจในท้องที่และเรียกรถพยาบาลหากมีผู้บาดเจ็บ
โทรแจ้งตำรวจในท้องที่คือ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ เมื่อจอดรถคาไว้ในที่เกิดเหตุ อาจจะทำให้เกิดจราจรติดขัดและเพื่อบันทึกประจำวัน เพราะการเคลมประกันต้องใช้ใบบันทึกประจำวันเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเคลมด้วย หากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ควรโทรเรียกรถพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือ นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้นและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตอีกด้วย
5.ตกลงเงื่อนไขการจ่ายค่าเสียหาย
เรียกเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาทันทีหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยแนะนำคุณได้ว่า ควรให้บริษัทชดใช้ หรือคุณควรจะจ่ายเอง หากอีกฝ่ายเป็นฝ่ายยอมรับผิด และคุณสงสัยว่า คุณจะได้รับบาดเจ็บ อย่าเพิ่งรีบรับข้อเสนอให้ยอมความ เพราะการบาดเจ็บอาจต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้อาการ หากคุณยอมความไปแล้ว การเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติมจะทำได้ยากขึ้น
CR. บมจ. ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย)