3 แพลตฟอร์มฝึก Future skill อัพเกรดสมองรับโลกอนาคต

10 ก.ย. 2564 | 06:14 น.

คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา แนะ 3 แพลตฟอร์มฝึก Future skill จาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำ ผลักแรงงานทุกช่วงวัย Reskill – Upskill – Newskill ตอบโจทย์โลกอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ได้กำหนดกรอบการปฏิรูประบบการศึกษาไทยเชิงนโยบาย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยในทุกช่วงวัย สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็นให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร (Reskill) การพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต (Upskill) รวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน (Newskill) เช่น ทักษะทางด้านดิจิทัล หรือทำงานร่วมกับ AI

 

ล่าสุดจึงมีการนำเสนอ แพลตฟอร์มและหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะที่น่าสนใจจาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่

 

  • CHULA MOOC เรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด ที่ใครๆ ก็เรียนได้ ทุกที่ ทุกเวลา

CHULA MOOC คือ แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ (Learning Innovation Center) จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย โดยยึดหลักตามแนวคิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning ด้วยการเปิดคอร์สเรียนออนไลน์ในวิชาต่างๆ หลากหลายวิชา 

สอนโดยอาจารย์ผู้มากความสามารถจากคณะต่างๆ ของจุฬาฯ สร้างขึ้นสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทุกช่วงวัยที่สนใจแสวงหาความรู้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและเข้าถึงได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสะดวกสบาย เพื่อเป็นการขยายโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับทุกคนอย่างไร้ข้อจำกัดในเรื่องของเวลา หรือการเดินทาง และเมื่อเรียนจบคอร์สจะได้รับใบรับรองจากสถาบันอีกด้วย ปัจจุบัน CHULA MOOC แบ่งคอร์สเรียนออกเป็น 5 หมวดหลักได้แก่ ภาษา เทคโนโลยี การจัดการ ศิลปะและการพัฒนาตนเอง และสุขภาพ โดยปรับเปลี่ยนไปตามกระแสและสถานการณ์ของสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้จริง ตัวอย่างวิชาที่น่าสนใจและได้รับความนิยม เช่น ความปกติใหม่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย (BIM), Data Analytics เป็นต้น

 

  • TU NEXT Thammasat For Future Skillset แพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งอนาคต

สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ ผ่านการ Reskill และ Upskill จากการสั่งสมประสบการณ์ด้านการจัดการเรียนการสอนอบรมออนไลน์มาเป็นระยะเวลานาน ล่าสุดจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการเรียนออนไลน์ ที่มีชื่อว่า TU NEXT ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนที่ต้องการฝึกทักษะได้เข้ามาหาความรู้และพัฒนาศักยภาพได้อย่างไร้ข้อจำกัด ผ่านการอบรมโดยทีมคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยผู้ที่สนใจสามารถเลือกลงทะเบียนและเสียค่าใช้จ่ายเพื่อเรียนในเรื่องที่ตนเองต้องการได้ ตัวอย่างหลักสูตรที่น่าสนใจ เช่น หลักสูตรเส้นทางสู่โอกาสสร้างรายได้: พืชเศรษฐกิจใหม่กัญชงและกัญชา, หลักสูตรติดอาวุธการนำเสนอแบบ 360 องศา เป็นต้น

  • KMITL Masterclass ทำลายทุกขีดจำกัดของการศึกษา

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เปิดตัว KLIX หรือ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ในระบบ EdX เพื่อนำเสนอการศึกษาในรูปแบบการเรียนออนไลน์ ในโครงการผลิตวิชาออนไลน์ 6 Masterclass ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่เกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง สร้างขึ้นสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป โดยมีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและฟรี ด้วยการดึงศักยภาพสถาบันการศึกษาสำหรับโลกแห่งอนาคต สร้าง 6 วิชานำร่อง ร่วมกับ 6 องค์กรชั้นนำในการผลิตสื่อการเรียนการสอน ตอบโจทย์การศึกษายุคใหม่ด้วยการออกแบบวิชาที่หลากหลายสำหรับคนทุกช่วงวัยอย่างทันสมัย และทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยี ทำให้มีผู้สนใจสมัครเรียนและได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวอย่างหลักสูตรที่ได้รับความนิยม เช่น Digital Media Production: การผลิตสื่อดิจิทัล (Introduction), Modern Entrepreneur: ผู้ประกอบการสมัยใหม่ (Introduction) เป็นต้น

 

นอกจากแพลตฟอร์มพัฒนาทักษะแรงงานผ่านการเรียนการสอนออนไลน์ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีแพลตฟอร์มในรูปแบบดิจิทัลจากภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศอีกมากมายที่มีเป้าหมายมุ่งพัฒนาทักษะ(Reskill - Up-skill - Newskill) ให้แรงงานในทุกช่วงวัยได้เลือกเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจและต้องการนำไปต่อยอด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนในอนาคต สร้างโอกาส สร้างรายได้ รองรับการทำงานในอนาคตหลังภาวะวิกฤตรวมถึงในปัจจุบัน สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง ได้มีการเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการพัฒนากำลังคนของประเทศ

 

อย่างไรก็ดี แนวนโยบายด้านการพัฒนาทักษะหรือยกระดับศักยภาพทุนมนุษย์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ข้างต้น ถือเป็นหนึ่งในภารกิจการปฏิรูประบบการศึกษาไทยของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่ได้กำหนดกรอบการปฏิรูประบบการศึกษาไทยเชิงนโยบาย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยในทุกช่วงวัย สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างไร้ขีดจำกัด 

 

ส่วนหนึ่งของตัวอย่างความสำเร็จ คือ โครงการ “พัฒนามหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทยเพื่อการจัดการเรียนการสอนในระบบเปิด” (Thai-MOOC) (http://thaimooc.org) โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ในปัจจุบันได้เปิดหลักสูตรให้ผู้สนใจเลือกศึกษาเพื่อเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต หรือจำเป็นต่อการทำงานในโลกยุคดิจิทัลเป็นจำนวนมากกว่า 500 หลักสูตร ครอบคลุมสถาบันการศึกษาทั่วประเทศรวมกว่า 120 แห่งในบางหลักสูตรเมื่อเรียนจบหรือสอบวัดผลผ่านเกณฑ์การเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถทำรายการในระบบเพื่อขอรับใบประกาศนียบัตร (Certificate) ได้อีกด้วย 

 

อย่างไรก็ตามในอนาคตคาดว่าประเทศไทยจะมีโครงการหรือกลไกอื่นๆ ที่จะสามารถช่วยผลักดันให้ผลิตผลทางการศึกษาของไทย ตอบโจทย์ความต้องการของโลกที่มีเปลี่ยนแปลงได้