นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดเผยว่า บิ๊กซี ได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จัดตั้งโครงการ “เพิ่มตลาดเติมทุนกับบิ๊กซี” มุ่งสนับสนุนกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย SMEs OTOP Startup รวมถึงกลุ่มร้านค้า ร้านอาหาร และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจบริการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ช่วยขยายช่องทางการตลาด พร้อมสนับสนุนสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อร่วมขับเคลื่อนฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยต้อนรับการเปิดประเทศ คาดในปีแรกผู้ประกอบการมีรายได้รวม 18 ล้านบาท
จากสถานการณ์ โควิด-19 ตั้งแต่เริ่มแรกจนถึงระลอกที่ 3 เป็นสาเหตุทำให้หลายกลุ่มธุรกิจได้รับผลกระทบจากภาวะ
เศรษฐกิจซบเซา โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจร้านค้าขนาดเล็ก ที่ส่วนใหญ่ยังขาดช่องทางการตลาด รวมถึงปัญหาของสภาพคล่องทางเงินทุนหมุนเวียน โครงการ “เพิ่มตลาดเติมทุนกับบิ๊กซี” จึงร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและเติมศักยภาพทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการทุกประเภทที่เข้าร่วมโครงการ
นอกจากนี้ บิ๊กซี ยังสานต่อนโยบาย “ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า” โดยร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเพื่อจัดแคมเปญนำเสนอสินเชื่อในเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ให้แก่ผู้ประกอบการในโครงการ
ธนาคารพันธมิตรที่ร่วมโครงการ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคากรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย
อีกทั้งยังมอบพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยรวมกว่า 100 ร้านค้ามาจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ณ บิ๊กซี 12 สาขา ทั่วประเทศ ได้แก่ สาขาพระราม 2 ลพบุรี อยุธยา เชียงใหม่พิษณุโลก ศรีสะเกษ ร้อยเอ็ด สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชลบุรี ระยอง และ กาญจนบุรี โดยงานนี้จัดตั้งแต่วันนี้ – 26 พฤศจิกายน 2564
ด้าน นายสุพจน์ พลเสนา รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากโครงการดังกล่าว บิ๊กซี มุ่งส่งเสริมตั้งแต่ด้านการเริ่มต้นธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ ซึ่งยินดีให้คำแนะนำตั้งแต่ต้นน้ำเริ่มกระบวนการผลิต จนถึงปลายน้ำการรับมาจำหน่ายด้วยเงื่อนไขพิเศษ พร้อมยังสนับสนุนด้านพื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าในสาขาบิ๊กซีทั่วประเทศ สำหรับผู้ที่มีผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานแต่ยังขาดกำลังการผลิต อีกทั้งยังจะได้รับความช่วยเหลือด้านสินเชื่อในอัตราพิเศษจากสถานบันการเงินที่ร่วมโครงการเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินธุรกิจอีกด้วย
“บิ๊กซี พร้อมปูเส้นทางสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่สนใจ โดยจัดเตรียมทีมงานจัดซื้อและผู้เชี่ยวชาญรองรับการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการรวมกว่า 300 คู่เจรจาพร้อมแผนขยายโครงการต่อเนื่องสำหรับช่วง ไตรมาสแรกของปีพ.ศ. 2565 ทั้งการตลาดออฟไลน์ออนไลน์ครบวงจร เพื่อมุ่งขับเคลื่อนการขยายตัวของจีดีพี ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตต่อไปในอนาคต” นายอัศวินกล่าว