ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เปิดตัวเลขผู้บริจาคโลหิตในช่วงโควิดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คาดอาจเกิดความวิตกกังวลเรื่อง Covid-19 จึงได้เปิดโครงการ #เพราะเราใส่ใจBloodDonation เพื่อเชิญชวนประชาชนฝ่าวิกฤตโลหิตไม่เพียงพอ เผย ขั้นตอน “3 เช็ค” ก่อนการบริจาคแบบ New normal ตั้งเป้าปริมาณโลหิต จำนวน 1,500 ยูนิต พร้อมแจกเสื้อและของที่ระลึก ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ
นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า “นับตั้งแต่การระบาดของโรค Covid-19 ปริมาณโลหิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตอีกเป็นจำนวนมากในการรักษา เช่น ผู้ป่วยโรคเลือด ผู้ป่วยผ่าตัด จึงได้จัดโครงการ #เพราะเราใส่ใจBloodDonation ขึ้น เพื่อรับบริจาคโลหิตจากประชาชนคนไทย และตั้งเป้าจัดหาโลหิตเพื่อสำรองคงคลังไว้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำนวน 1,500 ยูนิต”
โดยในการบริจาคโลหิต เพื่อความปลอดภัยของผู้บริจาคโลหิตและผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้โลหิตในการรักษา ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 มี ขั้นตอน “3 เช็ค” ก่อนการบริจาคแบบ New normal ดังนี้
เช็คที่ 1 : ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ งดบริจาคโลหิต 14 วัน
เช็คที่ 2 : ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไวรัส Covid-19 งดบริจาคโลหิต 28 วัน
เช็คที่ 3 : หากผู้ที่ติดเชื้อไวรัส Covid-19 งดบริจาคโลหิต 28 วัน นับตั้งแต่หายป่วยและไม่มีอาการใดๆ
ทั้งนี้ ผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคโลหิตต้องตอบคำถามสุขภาพ โดยให้ข้อมูลตรงตามความเป็นจริง ซึ่งในกรณีหลังจากบริจาคโลหิตแล้วพบว่าติดเชื้อไวรัส Covid-19 ท่านสามารถให้ความร่วมมือด้วยการแจ้งหน่วยงานที่รับบริจาคโลหิตทันที
โดยครั้งนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้รับการสนับสนุนจากผลิตภัณฑ์ Hirudoid ซึ่งมีการทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง “ในสภาวะไวรัส Covid-19 ทางผลิตภัณฑ์ Hirudoid เข้าใจและเล็งเห็นถึงปัญหาการขาดแคลนโลหิต
จึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สามารถจัดหาโลหิตได้เพิ่มมากขึ้นเพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วย โดยหวังว่าโครงการ #เพราะเราใส่ใจBloodDonation จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสามารถช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยให้ปลอดภัยจากสถานการณ์ขาดแคลนโลหิต” ภญ. อัญญาณี ลิ้มสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท ดีเคเอสเอช ประเทศไทย จำกัด กล่าว