“ต้องใจ ธนะชานันท์” กรรมการผู้จัดการ C asean บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง จนทำให้ไทยเบฟได้เข้าร่วมผลักดันโครงการประชารัฐ ตั้งแต่ปี 2559 วันนี้ไทยเบฟได้ต่อยอดสู่เวที
แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ในรูปแบบรายการเรียลลิตี้ Win Win War Thailand ที่จัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคม และดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 สร้างโอกาสให้กับธุรกิจเพื่อสังคมมาแล้วมากกว่า 100 ธุรกิจ
การสนับสนุนนักธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) เน้นคนที่มีไอเดียทำได้จริง และสามารถเติบโตได้ มีรายได้และกำไร ที่สำคัญคือ ต้องเอื้อประโยชน์หรือแก้ปัญหาให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม หรือสิ่งแวดล้อม
ผู้ที่เข้าร่วมแข่งขัน นอกจากจะได้รางวัลแล้ว ยังได้เครือข่าย และองค์ความรู้ เพื่อนำไปต่อยอด และไทบเบฟยังให้การสนับสนุนต่อเนื่อง โดยการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ ได้เข้าร่วมงานต่างๆ ที่ไทบเบฟจัดขึ้น เป็นการเปิดเวทีทางการตลาด ให้เขาได้โชว์ผลงานอีกข่องทางหนึ่ง เช่น งาน Sustainability Expo ที่จัดขึ้นประมาณปลายเดือนกันยายน 2565
ปีนี้ ไทยเบฟยังเปิดตัวรายการใหม่ Win Win WAR OTOP Junior รับสมัครน้องๆ อายุ 9-14 ปี เข้าแข่งขัน พร้อมเรียนรู้ ซึ่งถือเป็นรายการที่ต่อยอดมาจากโครงการประกวดโปรดักส์จากโรงเรียนต่างๆ โดยเด็กๆ จะได้น้ำผลิตภัณฑ์ที่เขาพัฒนาขึ้นจากห้องเรียนมาต่อยอด นำความรู้ในห้องเรียนมาแอพพลาย พร้อมทั้งได้รับการส่งเสริมและปลูกฝังการเป็นนักธุรกิจรุ่นเยาว์
“กิติกร เพ็ญโรจน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Heliconia H Group ผู้ผลิตรายการชื่อดัง เช่น Masterchef ในฐานะที่ปรึกษารายการ กล่าวว่า การจัดทำรายการ Win Win WAR Thailand ถือเป็นรายการที่พยายามให้โอกาสคนทำธุรกิจเพื่อสังคม เป็นจุดเริ่มต้นในการคัดเลือกคน แล้วให้รางวัล ให้เขาเอาไปเป็นทุนทำโครงการ
นอกจากนี้ ยังเป็นเหมือน Soft Power ที่จะช่วยกระตุ้น สร้างการรับรู้ ให้คนรุ่นใหม่ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติ หันมาสนใจธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งกำลังเป็นอีกหนึ่งเทรนด์โลก ที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,788 วันที่ 2 - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2565