หากใครที่เคยไปเบตง จังหวัดยะลา จะต้องนึกถึงคำขวัญที่ว่า เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดแดนสยาม เมืองงามชายแดน อำเภอเล็กๆที่แฝงไปด้วยวิถีชุมชนที่เงียบสงบ มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพระมหาธาตุเจดิย์ ที่วัดพุทธธาธิวาส หรือแวะสักการะเจ้าแม่กวนอิม ที่วัดโพธิสัตโต หรือหากใครที่ตื่นเช้า สามาถไปชมพระอาทิตย์ ทะเลหมอกที่ขึ้นชื่อของเบตงที่สกายวอค์อัยเยอร์เวงจะได้เห็นวิว360องศา
แต่ที่ ฐาน ละ มู จะพาล่องเรือไปมูเตลู คือที่ เกาะทวด สำหรับใครที่ชอบเสี่ยงโชครับรองจะไม่ผิดหวังเพราะทวดบูเกี๊ยะ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของการให้โชคลาภเป็นอย่างมาก
หลวงเปี๊ยก ชาวบ้านที่ทำท่องเที่ยวที่เกาะนี้บอกว่า เกาะทวดหรือเขื่อนบางลาน หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่าทะเลสาปฮาลาบาลา เป็นการท่องเที่ยวแบบชุมชน เพราะชาวบ้านทำกันเอง ไม่มีกลุ่มนายทุน ไม่ว่าจะเป็นเรือที่ให้บริการ หรือแพ ก็เป็นของชาวบ้านที่นั้น โดยท่าเรือที่จะมาเกาะทวดมีด้วยกัน4จุด คือ ที่ท่าเรือหมู่บ้านตะพะเยา ท่าเรือกม.72 ท่าเรือบริเวณหน้าเขื่อนบางลาน และท่าเรือบริเวณหมู่บ้านจุฬาภรณ์7
จุดเด่นของเกาะทวดคือ ความเป็นธรรมชาติ100%ที่นักท่องเที่ยวจะแวะมาเที่ยวโดยจะมีการนั่งเรือแบบระยะสั้นคือ มาแค่เกาะทวด มาไหว้ขอโชคลาภกับทวดบูเกี๊ยะ ส่วนเที่ยวแบบระยะยาวคือนั่งเรือไปที่ป่าฮาลาบาลา ซึ่งจะใช้เวลาทั้งวัน
สำหรับเกาะทวด ที่ตั้งของทวดบูเกี๊ยะ นั้น มีตำนานเล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่นว่า เกาะทวดและทวดบูเกี๊ยะมีมาเป็นพันปี โดยเมื่อก่อนด้านหน้าเกาะจะเป็นแม่น้ำปัตตานีเดิม เขื่อนบางลานจะกั้นแม่นำปัตตานี ซึ่งไหลจากมาเลเซียผ่านตัวเมืองเบตง เมื่อก่อนวิถีชีวิตของชาวบ้านจะใช้การล่องเรือสำเภา จากมาเลเซีย ออกไปอ่าวไทยซึ่งก็ต้องผ่านเกาะทวด และบริเวณรอบๆเกาะทวด ก็เป็นชุมชนใหญ่ เรียกว่าหมู่บ้านแม่หวาดซึ่งก็คือตำบลแม่หวาดในปัจจุบัน
เรื่องเล่าของทวดบูเกี๊ยะก็ที่มีการเล่ากันต่อๆคือ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านมีการทำร้ายชาวบ้าน และด้วยความเชื่อว่าทวดบูเกี๊ยะสามารถแสดงอภินิหารได้ก็ขอให้แปลงร่างเป็นงูไปฉกทหารญี่ปุ่นจนหนีกลับไป
“ทวดบูเกี๊ยะเด่นในเรื่องของการให้โชคลาภเป็นอย่างมาก โดยก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของโควิด นักท่องเที่ยวฝั่งมาเลเซียได้เดินทางมาไหว้ขอโชคลาภจากทวดบูเกี๊ยะเป็นจำนวนมากและก็ได้อย่างที่ขอ ถึงขนาดมีเจ้ามือหวยเดินทางมาด้วยในคณะ ขอโชคลาภเสร็จก็ซื้อขายกันตรงนั้น โดยสิ่งที่ทวดบูเกี๊ยะชื่นชอบคือเสียงประทัด ซึ่งจะเห็นว่ามีผ้าแดงผูกระหว่างทางเดินไปที่ศาลทวดบู๋เกี๊ยะจำนวนมาก โดยที่เกาะจะมีดอกไม้ธูปเทียนบริการ และมีประทัดจำหน่ายกล่องละ200บาทไว้บริการด้วย”
นอกจากจะเด่นในเรื่องของการขอโชคลาภแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี้จะขอเรื่องการงาน สุขภาพ ความรัก ครอบครัว ขอลูก ซึ่งมีคนดังๆมาขอความรักกันหลายคู่และก็สมหวังหรือบางคู่มาขอลูกก็ได้ดั่งใจ แต่ทั้งนี้หลวงเปี้ยกบอกว่าเรื่องเช่นนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล โดยนักท่องเที่ยวตอนนี้จะเป็นคนไทย
ที่มาจากทางภาคเหนือ อีสาน กรุงเทพ เป็นส่วนใหญ่แต่ทั้งนี้หลังโควิด-19คลี่คลายคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งฝั่งมาเลเซียและไทยเข้ามาเที่ยวที่เกาะทวดกันมากขึ้น โดยที่ผ่านมามีนักเที่ยวเฉลี่ยวันละเกือบหนึ่งหมื่นคน สำหรับค่านั่งเรือคนละ100บาท (ไป-กลับ)เรือ1ลำนั่งได้10-20คน