““พระพรหม”” มหาเทพแห่งความศักดิ์สิทธิ์

ผ่านไปแล้วสำหรับพิธีบูชา “วันเกิดพระพรหม” เมื่อช่วงเช้าวันนี้(9พ.ย.) ที่มีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาเข้าร่วมพิธีกันอย่างเนื่องแน่น โดย เพจเฟซบุ๊ก We Love Ratchaprasong ได้โพสต์ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊ก วันนี้ 9 พฤศจิกายน65 ซึ่งเป็นวันเกิดพระพรหม ครบรอบ 66 ปี แห่งการอัญเชิญองค์ท้าวมาประดิษฐาน บริเวณด้านหน้าโรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

“พระพรหม” หรือ “ท้าวมหาพรหม” เป็นเทพที่รู้จักกันดีทั้งในหมู่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะเชื้อสายจีน ฮินดู และขึ้นชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ โดยในแต่ละปีจะมีชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพักในย่านราชประสงค์ในช่วงวันเกิดพระพรหม เพื่อรอการเข้าร่วมพิธีสักการะอันศักดิ์สิทธิ์

นับตั้งแต่วันที่ศาลพระพรหมถูกตั้งขึ้น ผู้คนทั้งจากในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างประเทศต่างก็พากันมาสักการบูชาด้วยความเชื่อที่ว่าจะช่วยปัดเป่าอุปสรรคและส่งเสริมโชคลาภ รวมไปถึงความสำเร็จในทุกด้านมาจนถึงทุกวันนี้

การเดินทางมายังศาลพระพรหม สามารถเดินทางมาได้ง่าย ๆ ด้วย BTS ลงสถานีชิดลม ซึ่งศาลจะเปิดในเวลา 06.00 – 22.00 น. ของทุกวัน

ของไหว้  ธูป 12 ดอก, เทียน 1 เล่ม, พวงมาลัยดาวเรือง 4 พวง  ห้ามถวายเนื้อสัตว์ทุกชนิด  ของที่นิยมถวาย/แก้บน ละครรำ , ตุ๊กตาช้าง, ผ้า 7 สี 7 ศอก

วิธีการไหว้ : ไหว้ทั้ง 4 ด้าน ด้วยพระพรหมมีลักษณะที่โดดเด่นคือ มี 4 พักตร์ ซึ่งแต่ละพระพักตร์ก็มีนัยยะการขอพรที่แตกต่างกันไป และเชื่อกันว่า 4 พักตร์นี้ หมายถึง นัยยะของพรหมวิหาร 4 และหากผู้ที่เคารพบูชาประพฤติและปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี พระพรหมก็จะทรงประทานพรให้สมปรารถนา

พักตร์ที่ 1 (พระพักตร์แรกของที่ประดิษฐาน)  ขอเรื่องการงาน การเรียน การศึกษา การสอบแข่งขัน

พักตร์ที่ 2 (วนซ้าย ตามเข็มนาฬิกา) ขอเรื่องทรัพย์สิน เงินทอง

พักตร์ที่ 3  ขอเรื่องสุขภาพ ครอบครัว

พักตร์ที่ 4 ขอเรื่องโชคลาภ การเสี่ยงดวง การขอบุตร การลงทุนต่างๆ