วันที่ 14 เมษายน ของทุกปีเป็น "วันครอบครัว" ในเทศกาลมหาสงกรานต์ไทย2566 ที่ลูกหลานจะกลับมาบ้าน เยี่ยมเยือนปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ญาติพี่น้องในต่างจังหวัด หรือเดินทางไปรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นวัฒนธรรมไทยที่ทำต่อๆมาหลายชั่วอายุคน เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นโอกาสรวมญาติ รวมครอบครัว ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการี รดน้ำดำหัว ขอพร ผู้เฒ่าผู้แก่ เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล และเพื่อความอบอุ่น เป็นสุขของครอบครัว ตามประเพณีไทยที่เคยปฏิบัติกันมา
ดังนั้น“ครอบครัว”คือ สถาบันมูลฐานของมนุษย์ชาติ เป็นหน่วยขนาดเล็กที่สุดของสังคม เป็นผู้สร้างและกำหนดสถานภาพ สิทธิ หน้าที่ของบุคคลอันพึงปฏิบัติต่อกันในสังคม เป็น สถาบันแห่งแรกในการถ่ายทอดวัฒนธรรมและพัฒนา
ผู้ร่วมครัวเรือน คือ สามี ภรรยา และบุตร การที่ทางราชการกำหนดวันครอบครัวขึ้นมานั้น เนื่องจากต้องการให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของครอบครัวให้มากขึ้น เพราะการที่วิถีชีวิตของคนในสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไป ย่อมทำให้ครอบครัวมีความขัดแย้ง และห่างเหินกันมากขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมาทีหลังได้
หลังจากนั้นเชิญปู่ยา ตายาย พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่มานั่ง มีการรดน้ำพระพุทธรูปในบ้านก่อน จากนั้น นำขันใบเล็กตักน้ำรดมือ อวยพรให้ท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ท่านก็จะอวยพรกลับมาให้เรา และถ้าเป็นวัฒนธรรมทางเหนือ ก็มีจะการทำพิธีกวาดเคราะห์ส่งจั๋งขาน เอาสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากชีวิตและรับแต่สิ่งดีๆเข้าในมาเทศกาลปีใหม่ไทยนี้ปิดท้ายด้วยการผูกข้อมือด้วยด้ายขาวที่ข้อมือซึ่งถือว่าเป็นการอวยพรของผู้ใหญ่อีกด้วย
นอกจากนะเป็นวันครอบครัวแล้ว วันนี้ยังเป็นวันเนาซึ่งเป็นวันที่ห้ามพูดคำหยาบ สำรวมกริยากายวาจาใจ และยังเป็นวันที่ชาวพุทธจะขนทรายเข้าวัดเพื่อก่อพระทราย ซึ่งในวันที่15เม.ย.จะเป็นการสรงน้ำพระที่วัด นับว่าเป็นวัฒนธรรมที่ทำกันมานานในหลายพื้นที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์