1.อัตถิ โลเก สีละคุโณ สัจจัง โสเจยยะนุททะยา
เตนะ สัจจะ กาหามิ สัจจะกิริยะมะนุตตะรัง.
2.อาวัชชิตวา ธัมมะพะลัง สะริตวา ปุพพะเก ชิเน
สัจจะพะละมะวัสสายะ สัจจะกิริยะมะกาสะกะหัง.
3.สันติ ปักขา อะปะตะนะ สันติ ปาทา อะวัญจะนา
มาตา ปิตา จะ นิกขันตา ชาตะเวทะ ปะฎิกกะมะ.
4.สะหะ สัจเจ กะเต มัยหัง มะหาปัชชะลิโต สีขี
วัชเชสิ โสฬะสะ กะรีสานิ อุทะกัง ปัตวา ยะถา สิขี
สัจเจนะ เม สะโม นัตถิ เอสา เม สัจจะปาระมีติ.
คำแปล
1.คุณแห่งศีล ความสัตย์ ความหมดจด และความเอื้ออาทรมมีอยู่จริงในโลก เราขอทำสัจจกิริยาอันยิ่งด้วยความจริงนั้น
2.เรานึกถึงอานุภาพแห่งพระธรรม ระลึกถึงพระชินเจ้าองคก์ก่อนๆแล้ว อาศัยอานุภาพแห่งความจริง ขอทำสัจจกิริยา.
3.เรามีปีกก็บินไม่ได้ มีเท้าก็เดินไม่ได้ มารดาบิดาก็ออกไปแล้ว(หาอาหาร)แน่ะไฟขอท่านจงหลีกไปเถิด.
4.เมื่อเราทำสัจจวาจาแล้ว ไฟที่ลุกโพลง ก็ดับไปเป็นพื้นที่ถึง16กรีส(2,000ศอก) ดุจไฟถูกน้ำดับไปฉะนั้น บุคคลที่เสมอเราด้วยความสัตย์ไม่มี นี้เป็นสัจจบารมีของเรา ดังนั้นแล.
ที่มา:พระสุตตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่มที่33