ดาวราหูย้าย 17 ตุลาคม 2566 นี้ หลายคนที่มีความเชื่อด้านโหราศาสตร์ อาจเริ่มกังวลว่าจะส่งผลดีร้ายอย่างไรต่อตนเอง บ้างก็ตระเตรียมข้างของเครื่องไหว้พระราหู 8 อย่างบ้าง 12 อย่างบ้าง แต่ความเป็นจริงแล้ว ดาวราหูย้ายคืออะไร อยากให้ร้ายกลายเป็นดีต้องบูชา หรือทำพิธีกรรมไหว้กราบสิ่งใด อย่างไร
ฐานเศรษฐกิจ สัมภาษณ์พิเศษ อ.ราช รามัญ นักโหราศาสตร์ และคอลัมนิสต์ เพื่อให้ความกระจ่างเกี่ยวกับการที่ดาวราหูจะเคลื่อนย้ายในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 นี้ ราศีไหนปัง ราศีไหนต้องระวัง โดย อ.ราช ได้ให้ความรู้ตามหลักโหราศาสตร์ก่อนว่า ดาวราหูเป็นดาวชนิดหนึ่งตามหลักของโหราศาสตร์ มีลักษณะนิสัยที่โกรธง่ายหายเร็ว เอาแต่ใจมัวเมาลุ่มหลงสนุกสนาน เฮฮา และอาจจะมีความหมายถึงความต่างถิ่นต่างแดน หมายถึงเรื่องต่างประเทศหรือการสื่อสารที่กว้างไกลจนถึงระดับจักรวาล
อ.ราช เล่าถึงผลกระทบแต่ละราศีให้ฟังว่า 17 ตุลาคม ดาวราหูยกย้ายจากราศีเมษ ไปสู่ราศีมีน ทุกราศีย่อมได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยจากผลการเคลื่นย้ายของดาวราหู ในมุมดีจะอยู่ที่ ราศีสิงห์ ,ราศีเมษ ,ราศีพฤษภ ,ราศีกรกฏ ,ราศีเมถุน และราศีตุลย์ ราศีเหล่านี้ ดีแน่นอนแต่ไม่ใช่ว่าดีร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพื้นดวงชะตาเดิมของแต่ละคนว่า ดาวประจำตัวส่งเสริมกับดาวราหูหรือไม่มากน้อยแค่ไหน
อ.ราช อธิบายต่อไปว่า ผู้ที่อยู่ราศีสิงห์ ,ราศีเมษ ,ราศีพฤษภ ,ราศีกรกฏ ,ราศีเมถุน และราศีตุลย์ หากดาวประจำตัวของแต่ละคนส่งเสริมกันกับดาวราหู ก็จะทำให้มีโอกาสดีถึง 100% แต่ถ้าดาวประจำตัวไม่ได้ส่งเสริมกับดาวราหูโอกาสดีดังกล่าวก็จะลดหลั่นลงมา
ดังนั้นทฤษฎีดาวเจ้าเรือน ดาวเกษตราธิบดี ที่บางคนหยิบยกมาพิจารณาร่วมกันก็อาจนำมาพยากรณ์ได้ แต่ในมุมส่วนตัวของ อ.ราช มองว่าเป็นการตีกรอบมากเกินไปควรจากพิจารณาที่พื้นดวงเดิม กับการโคจรของดาวราหูจะมีความชัดเจนมากกว่า
นอกจากนี้ในส่วนราศีที่ต้องระมัดระวัง อ.ราชกล่าวว่า ได้แก่ ราศีกันย์ ,ราศีพิจิก ,ราศีธนู ,ราศีมังกรราศีกุมภ์ และราศีมีน ทั้งนี้ต้องพิจารณาร่วมกับดาวพื้นดวงเดิมประกอบด้วยเช่นกัน เพราะหากดาวประจำตัวเป็นดาวคู่มิตรกันกับดาวราหูแทนที่จะร้าย ก็จะกลับกลายเป็นดี
หลักในการพิจารณาเรื่องดาวราหูย้ายในครั้งนี้สามารถพิจารณาด้วยตัวเองได้ง่ายๆ โดยการย้อนกลับไปดูสถานการณ์ของตนเองเมื่อ 14 ปีที่แล้ว เพราะนั่นคือตำแหน่งของดวงดาวเช่นเดียวกันกับการเคลื่อนย้ายของดาวราหูในนี้
ต่อข้อถามที่ว่าเมื่อดาวราหูย้ายเช่นนี้แล้วมีความจำเป็นต้องทำพิธีกรรมเพื่อไหว้ดาวราหูหรือไม่ อ.ราช กล่าวถึงหลักโหราศาสตร์ว่า ตามหลักโหราศาสตร์นั้นดวงดาวเดินด้วยกันเวลาจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ฉะนั้นการทำพิธีกรรมไหว้กราบใดๆก็ตามไม่ได้ทำให้การเคลื่อนย้ายของดวงดาวเปลี่ยนแปลงไป สิ่งใดที่จะต้องเกิดก็ย่อมต้องเกิดตามหลักโหราศาสตร์และการเคลื่อนย้ายของดวงดาวรวมไปถึง พื้นดวงเดิมของแต่ละคนประกอบกัน
แต่สำหรับผู้ที่มีความเชื่อเรื่องการไหว้รับราหูย้ายนั้น เพราะมีความเชื่อว่าหากได้ไหว้ราหูตอนที่ราหูย้าย มาแล้วจะทำให้เกิดความรุ่งเรืองแก่ผู้ไหว้ ทั้งนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล แต่หากพิจารณาตามหลักของศาสนาพุทธจะพบว่า ในพุทธประวัติ พระราหู หรือพระอสุรินทราหู ให้ความยำเกรงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตามพุทธประวัติ ในสมัยที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ ณ วัดเชตวันมหาวิหาร ในนครสาวัตถี พระอสุรินทราหู ได้สดับพระเกียรติคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจากเหล่าเทวดาทั้งหลาย จึงมีความประสงค์จะฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธองค์ แต่คิดว่าพระพุทธองค์เป็นมนุษย์มีพระวรกายเล็ก ตนเองมีร่างกายใหญ่หากไปเฝ้าก็จะต้องก้มลงมองด้วยความลำบาก เมื่ออสุรินทราหู ไปเข้าเฝ้าสำคัญตัวว่ามีร่างกายใหญ่โตใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า จึงไม่ยอมแสดงความอ่อนน้อม
พระพุทธองค์ทรงประสงค์จะลดทิฐิของอสุรินทราหูอสูร จึงทรงเนรมิตกายให้ใหญ่โตกว่า ทรงนอนในลักษณะเสด็จสีหไสยาสน์ พระเศียรหนุนภูเขาต่างพระเขนย พระบาททั้งสองข้างที่วางซ้อนกันอยู่ (พระพุทธรูปปางโปรดอสุรินทราหู) สูงใหญ่กว่าอสุรินทราหู อสุรินทราหูต้องแหงนคอเพื่อชมพุทธลักษณะ นับแต่นั้นมาอสุรินทราหูก็ลดทิฐิมานะ อ่อนน้อมต่อพระพุทธองค์ และเมื่อได้สดับฟังพระธรรมเทศนาจึงเกิดความเลื่อมใส ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะที่พึ่งสูงสุดแห่งชีวิต
อ.ราช ให้ทริคไว้ในตอนท้ายว่า หากจะไหว้กราบสิ่งใดเพื่อให้เกิดความคุ้มครองแก่ตนเองให้ปลอดภัยจากการย้ายของดาวราหูในครั้งนี้ การกราบไหว้พระพุทธเจ้า บูชาพระพุทธเจ้า และดำรงตนด้วยสติ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะพระราหูเองก็ยังมีความยำเกรง และศรัทธาต่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า