สมาพันธ์สุนัขโลกจดทะเบียน ‘สุนัขไทยบางแก้ว’เป็นสุนัขโลกแล้ว

04 ก.ย. 2565 | 13:00 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2565 | 20:07 น.

สมาพันธ์สุนัขโลกจดทะเบียน ‘สุนัขไทยบางแก้ว’ เป็นสุนัขโลกแล้ว ต่อจากสุนัขไทยหลังอาน สร้างมาตรฐานรับรองสายพันธุ์ระดับสากล

สมาพันธ์สุนัขโลก (Federation Cynologique International :FCIจดทะเบียนสุนัขไทยบางแก้วเป็นสุนัขโลกเรียบร้อยแล้ว ต่อจากสุนัขพันธุ์ไทย หลังอาน 

 

สมาพันธ์สุนัขโลกจดทะเบียน ‘สุนัขไทยบางแก้ว’เป็นสุนัขโลกแล้ว

 

โดยจัดอยู่ในกรุ๊ป 5 จาก 10 กรุ๊ป ซึ่งกรุ๊ป 5 แบ่งตามลักษณะของสุนัขและแหล่งกำเนิดของสุนัข คือ Spitz เป็นสุนัขที่มีขนยาว หนา และมักเป็นสีขาว หูตั้ง ปลายหูแหลม หางมักจะโค้งอยู่เหนือหลัง รูปหน้าสุนัขจิ้งจอกหรือคล้ายกับหมาป่า และ Primitive type  เป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือสุนัขโบราณ 

 

สมาพันธ์สุนัขโลกจดทะเบียน ‘สุนัขไทยบางแก้ว’เป็นสุนัขโลกแล้ว

 

สุนัขบางแก้ว ถูกตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิด คือ “วัดบางแก้ว” ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สุนัขไทยพันธุ์นี้มีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอกหรือเป็นสุนัขลูกผสมของสุนัขจิ้งจอก 

คนไทยนิยมเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เนื่องจากสุนัขบางแก้วขึ้นชื่อเรื่องความดุ ปัจจุบันสุนัขจากประเทศไทยได้รับการรับรองจาก FCI แล้ว 2 สายพันธุ์ คือ #ไทยหลังอาน อยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Primitive type และล่าสุด ไทยบางแก้ว อยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Spitz 

 

ความสำคัญของการที่ FCI จดทะเบียนสุนัขไทย บางแก้ว เป็นสุนัขโลกนั้น เป็นการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข เพื่อให้ประเทศสมาชิกใช้ถือปฏิบัติเป็นตามมาตรฐานเดียวกัน เช่น การรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข

 

การรับรองการประกวดของประเทศสมาชิก การรับรองกรรการผู้ตัดสินของประเทศสมาชิก ฯลฯ  ซึ่งทำให้ผู้ส่งประกวดจะได้รับใบเพ็ดดิกรี หรือใบรับรองพันธุ์ประวัติ (Certificate Pedigree)  

 

แสดงถึงคุณภาพของลูกสุนัขที่ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรม ลักษณะเด่น ด้อย ทั้งในเชิงกายภาพรูปร่าง หน้าตาต่อจากสุนัขพันธุ์ไทย หลังอาน ไปจนถึงลักษณะนิสัย ทั้งนี้ ปัจจุบันสมาพันธุ์สุนัข (FCI) มีสมาชิกทั้งหมด 98 ประเทศ มีสุนัขที่ได้รับรองมาตรฐานแล้วประมาณ 370 สายพันธุ์