วันลอยกระทง 2565 หลายพื้นที่จัดงาน และกิจกรรมมากมายต้อนรับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 กันอย่างคึกคัก ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยหนึ่งในพื้นที่ของการจัดงานที่น่าสนใจ ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมสนับสนุนการจัดงาน นั่นคือ ประเพณี ลอยกระทงกาบกล้วย เมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม
ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย เมืองแม่กลอง
แนวคิดการจัดงาน ชวน “นุ่งโจง ห่มสไบ แต่งชุดไทย ไปลอยกระทง” ภายใต้ชื่องาน “แชะ ช้อป ชิมอาหารบ้านฉัน ชมจันทร์วันเพ็ญ และงานประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง ตามครรลองวิถีพอเพียง ปลอดภัยไร้ซึ่งแอลกอฮอล์ ประจำปี 2565”
ระยะเวลาจัดงาน
เวลางานเปิด-ปิด
สถานที่
ไฮไลท์ และกิจกรรมที่น่าสนใจ
รู้จัก ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย เมืองแม่กลอง
สำหรับ ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วย เมืองแม่กลอง ถือเป็นประเพณีที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม และเป็นประเพณีลอยกระทงที่มีชื่อเสียงติดอันดับของประเทศ โดยนำวัสดุจากท้องถิ่นคือต้นกล้วยที่ออกเครือติดผลแก่แล้วมาใช้เป็นวัสดุในการทำกระทง และหาซื้อธูปที่ใช้บูชาพระห่อใหญ่ๆ นำมาจุ่มน้ำมันยาง
จากนั้นนำธูปที่จุ่มน้ำมันยางมาคลี่ผึ่งแดดจนแห้ง ใช้เวลา 2 - 3 วัน นำเอาต้นกล้วยมาหั่นเป็นท่อนยาวลอกเป็นกาบ แล้วทำเป็นรอยหยักที่ริมทั้งสองข้างของกาบกล้วย อาจเพิ่มการแกะสลักที่เรียกว่า "แทงหยวก" ทำเป็นลวดลายที่สวยงามเพิ่มเติมเข้าไป
การเอาธูปจุ่มน้ำมันยางปักไว้กลางกระทงกาบกล้วยเป็นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นอันชาญฉลาดของชาวแม่กลอง เพราะการลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลองจะต้องใช้ธูปที่ให้แสงสว่างได้นานถึงครึ่งชั่วโมง เพื่อให้กระทงกาบกล้วยเกิดแสงสว่างได้นานทั่วคุ้งน้ำแม่กลอง ความสว่างไสวของแสงไฟจากกระทงกาบกล้วย สวยงามตระการตาอย่างหาที่เปรียบมิได้ในลำน้ำแม่กลอง
ต่อมาประเพณีลอยกระทงสายกาบกล้วยได้หายไปจากชีวิตชาวแม่กลอง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและสังคม ในปัจจุบันจังหวัดสมุทรสงครามได้ฟื้นฟูประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยขึ้นมาอีกครั้ง กลายเป็นประเพณีลอยกระทงที่ยิ่งใหญ่ เป็นภูมิปัญญาไทยในท้องถิ่นที่แฝงซึ่งนัยสำคัญแห่งภูมิปัญญาของความประหยัดเรียบง่าย ไม่ทำลายธรรมชาติ
เมื่อกระทงกาบกล้วยนับแสนที่จุดธูปและปล่อยลอยเป็นสายให้เป็นระยะตามแนวลำน้ำแม่กลอง แสงไฟของธูปจะลุกให้ความสว่างไสวอย่างสวยงามอย่างช้าๆ สวยงามตระการตาอย่างหาที่เปรียบมิได้ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและประทับใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จะจัดขึ้นในวันลอยกระทงของทุกปี
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กระทรวงวัฒนธรรม