ท่ามกลางมุมสงบริม “หาดเฉวง” ชายหาดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนเกาะสมุย แนะนำให้เช็คอิน “โรงแรม เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย” โรงแรมแฟล็กชิพ ในเครือเซ็นทารา ที่หันมาโฟกัสเซ็กเม้นท์ระดับลักชัวรี
การออกแบบของโรงแรมจึงเต็มไปด้วยความหรูหราตามสไตล์คลาสสิคโคโลเนียล ที่มาพร้อมกับกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมร่วมสมัย
รายล้อมด้วยสวนสวยสไตล์ทรอปิคอล
ทิวทัศน์ความสวยงามของท้องทะเลอ่าวไทย ตลอดริมหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวถึง 260 เมตรและเป็นหาดที่เล่นน้ำได้อย่างปลอดภัยสุดๆ เพราะใต้ทะเลเป็นผืนทรายละเอียด ไม่มีก้อนหินมาตำเท้าแน่นอน
ห้องพักของโรงแรมกว่า 184 ห้อง มีหลายสไตล์ เริ่มตั้งแต่ห้องพักภายในอาคารโลว์ไรซ์ เริ่มจาก ห้องเดอลักซ์ การ์เด้นท์ เดอลักซ์ พูลแอสเสจ
แต่ถ้าอยากได้ห้องที่มีสเปซขนาดเข้าไปพักได้ 3 คน แนะนำให้รีเควส ห้องรีเซิร์ฟ โอเชี่ยน สวีท
ถ้าชอบความเป็นส่วนตัวสุดๆ ต้องห้องรีเซิร์ฟพูลสวีท ไปจนถึงพูลวิลล่าติดชายหาด
การตกแต่งและมู้ธแอนด์โทนในทุกห้องจะเหมือนกัน เน้นเอิร์ธโทน เบจขาว แต่แตกกันตรงวิว ขนาดและประเภทของห้องพัก ชอบมากกับมินิบาร์ฟรีทั้งยังมีแอลกอฮอล์ให้ฟรีด้วย
อเมนิตี้ในห้องน้ำเก๋สุดตรงสบู่เหลว 2 กลิ่นหอมแตกต่างสำหรับความชอบของผู้หญิงและผู้ชายด้วย
อีกทั้งในทุกวันจะมีเซอร์ไพรส์ออฟเดอะเดย์ ให้เราลุ้นด้วยว่าในแต่ละวันจะมีเซอร์ไพรส์อะไรน๊า
สระว่ายน้ำของโรงแรมมี 2 สระแยกกันคนละโซนแต่ติดทะเลทั้ง 2 สระ โดยสระสำหรับผู้ใหญ่ จะมีจุดในสระที่ต้องไปปักหมุดถ่ายรูป คือ มุมสระอินฟินนิตี้ที่เป็นกระจกใส ใส่บิกินี่ไปว่ายน้ำให้คนรู้ใจถ่ายรูปแจ่มๆเซ็กซี่สุดๆ
ส่วนอีกสระจะเป็นสระหลัก ที่เหมาะมากสำหรับทุกคนในครอบครัว
อีกทั้งในแต่ละวัน เกือบตลอดทั้งวันโรงแรมยังมีการจัดกิจกรรมหลากหลายให้เราได้เลือกร่วมกิจกรรมตามชอบกันได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ไม่ว่าจะเป็นโยคะ, อควา เอ็กเซอร์ไซส์, วอลเล่ย์ชายหาด ไปจนถึงกิจกรรมในทะเล และฟิตเนสที่นี่คือดีงามเครื่องออกกำลังกายหลากหลายและทันสมัยมาก
ยิ่งถ้ามากับเด็กน้อยรับรองแจ่มเลยเพราะห้องเด็กของที่นี่ มีสวนน้ำพุขนาดใหญ่ให้เด็กวิ่งเล่นกันสนุก
ส่วนผู้ใหญ่อย่างเราๆขอไปทำทรีตเม้นท์สวยๆกันที่ “รีเซิร์ฟ สปา เซ็นวารี” ดีกว่า ซึ่งที่นี่มีสวนสมุนไพร และเป็นสปาออแกนิคอีกต่างหาก ซิกเนเจอร์อยู่ที่การนวดด้วยไม้ไผ่ และใช้หินร้อนวางบนจุดจักระ ซึ่งช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
6 ร้านอาหาร สไตล์รีเซิร์ฟ สุดเก๋
มาพักที่เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย พลาดไม่ได้กับการปักหมุดไดนิ่ง ทั้งเก๋และคลีเอดสุดๆ สำหรับร้านอาหารและบาร์รวม 6 แห่งของโรงแรม ซึ่งแต่ละร้านมีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันในแบบฉบับของตัวเอง
เราสัมผัสได้ถึงศาสตร์และศิลป์แห่งการรับประทานอาหาร กับประสบการณ์ความเป็นเลิศด้านรสชาติอาหารและเครื่องดื่มสไตล์รีเซิร์ฟ (Reserve Gastronome)
ใครชอบอาหารสไตล์เวสเทิร์นระดับไฮเอนด์ ซึ่งไม่เพียงอร่อย แต่ยังสนุกไปกับลูกเล่นการเสิร์ฟอาหารแบบสร้างสรรค์ นี่เลย “ACT 5” ห้องอาหารในมื้อดินเนอร์ที่จัดเต็มความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการเสิร์ฟด้วยเทคนิคพิเศษ โดยใช้เปลวไฟเข้ามาเป็นส่วนประกอบ
ดูแล้วว๊าว! เราสัมผัสได้ถึงการคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นและนำเข้าคุณภาพเยี่ยม ผสมผสานสมุนไพรสดจากสวนออร์แกนิคของรีสอร์ท ชอบมากกับเมนูล็อบสเตอร์ เนื้อวากิวริบอาย และขนมหวานที่ทำออกมาหน้าตาเหมือนสก็อตไบร์ทเลยอ่ะ
ส่วนห้องอาหารไทย Sa-Nga “สง่า” เป็นอาหารไทยสูตรต้นตำรับสไตล์ทาปาส นำเสนอเมนูรูปแบบแปลกใหม่ สำหรับดินเนอร์ เรารู้สึกประทับใจกับการตีความอาหารไทยที่ยังคงรสชาติต้นตำรับ แต่ปรุงออกมาหน้าตาโมเดิร์นมากๆ
ชอบมากมายกับ “ต้มยำคาปูชิโน” รสชาติกลมกล่อมมาก ซึ่งไม่ใช่นำกาแฟมาเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด แต่เป็นการต้มยำเข้มข้นที่ทานเข้าไปหอมกลิ่นมันกุ้ง และฟองกะทิ ให้รสสัมผัสนุ่มละมุน รูปร่างหน้าตาของต้มยำเลยคล้ายกับกาแฟคาปูชิโนนั่นเอง บอกเลยเมนูนี้ต้องสั่งเบิ้ล
อีกเมนูที่เราชอบมาก คือ “Scallop red curry” ที่เชฟมาออกมาสไตล์แกงคั่วหอยเซลล์ น้ำแกงมีความขลุกขลิก มีฟักทองญี่ปุ่น ช่วยตัดรสเผ็ด
ใครไม่ชอบทานเผ็ดแนะนำ “Squid Soup” ต้มกะทิปลาหมึกย่างใบมะขามอ่อน ให้รสเปรี้ยวเล็กน้อย
รวมถึง “Tiger prawn” กุ้งซอสมะขาม เนื้อกุ้งเด้งๆที่ถูกนำไปย่าง เสิร์ฟพร้อมน้ำซอสมะขามเปียก และ honey comb “Soft shell Crab” ยำปูนิ่มทอดกับดอกดาหลาใส่สัปปะรดให้ความสดชื่น
ส่วนคอเนื้อ แนะนำ “Wagyu beef Salad” ยำเนื้อวากิวย่างเสริฟมาพร้อมกับเตาชาโคลร้อนๆและสลัดแตงกวา
ส่วนเมนูของหวานก็ว๊าวมากทุกโต้ะต้องสั่ง “Mango Sticky rice” อลังการรูปมะม่วงสีเหลืองสดที่ทำจากไวท์ช็อคโกแลต เนื้อไส้ข้างในเป็นครีมกะทิและซอสมะม่วง เสิร์ฟกับข้าวเหนียวถั่วทองคลัมเบิล และไอศกรีมกะทิ
“Coconut pancake” หรือขนมบ้าบิ่นเสิร์ฟมาพร้อมไอศกรีมมะพร้าว และครีมมะพร้าว โรยหน้าด้วยพิทาชิโอ แคนดี้
ส่วนของหวานที่ทำเรารู้สึกสดชื่นสุดๆ นี่เลย “Soaked fruits” ขนมไทยชาววัง รสชาติชื่นใจจากผลไม้รวม ไม่ว่าจะเป็นลำใย ลิ้นจี่ เงาะ ส้ม ส้มโอ เสิร์ฟมาในน้ำเชื่อมส้มฉุน Top ด้วยลิ้นจี่น้ำแข็งใส ที่ถูกรังสรรค์ออกมาในแบบลิ้นจี่ คาเวีย
ขณะที่ใครอยากนั่งชิลล์ทานอาหารริมทะเล “Salt Society” เป็นห้องอาหารที่เก๋มาก กับดีไซน์ห้องอาหารเปิดโล่งรับลมทะเล ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ถึง 1,750 ลำ มาแขวนล้อไปกับแพทเทิร์นของเกลียวคลื่น มีทั้งโซนเอ้าท์ดอร์ และอินเดอร์
จุดเด่นของห้องอาหารนี้ คือ เป็นห้องอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน เน้นซีฟู้ด ที่มีการใช้เกลือเป็นส่วนประกอบหลักในการเพิ่มรสชาติให้อาหาร ซึ่งเชฟจะแมทช์อาหารในแต่ละจานกับเกลือโฮมเมด ที่มีมากกว่า 12 ชนิด อาทิ เกลือดำ เกลือบีทรูท เกลือซูมัค เกลือรมควัน
เมนูโปรดของเรา “Grill jumbo prawn” หอมอร่อยสุดๆกับกุ้งเผา ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของที่นี่ เสริฟคู่กับ Lemon Salt “Grill White snaper” เนื้อปลากระพงย่าง ทานคู่กับ ซัลซ่ามะม่วง เข้ากันลงตัว ใครชอบความสดชื่น “Grill Watermelon” ตอบโจทย์
ส่วน “สลัดผักเคล” อร่อยมากขนาดคนไม่ชอบทานผักอย่างเรายังชอบเลย
อีกเมนูที่แนะนำ “Grill Fish Tacos” ทาโก้ปลาย่างรสกลมกล่อมเสิร์ฟคู่เกลือซูมัค อีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ “Vitamin Sea Sunday Brunch” บุฟเฟ่ต์มื้อสายวันอาทิตย์พร้อมสรรพด้วยหลากหลายเมนูและอาหารทะเลสดชั้นเลิศ
นอกจากนี้ยังมีห้องอาหาร “The Terrace” บริการอาหารนานาชาติจากทั่วทุกมุมโลกและเมนูเพื่อสุขภาพที่ปรุงสดใหม่ตลอดวัน
โดยห้องอาหารเช้า ที่นี่มีไลน์บุฟเฟ่ต์หลากหลายมาก “Smashed Avocado” ต้องลอง ส่วน “Oven Truffle Mushroom” แนะนำเลย ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ก๋วยเตี๋ยวก็พร้อมเสิร์ฟ เบเกอรี่ก็เยอะมาก
อย่าลืมลองชิมครัวซองส์และโดนัทจิ๋วที่รับรองว่าไม่เคยเห็นที่ไหนแน่นอน
ส่วน กาแฟ และชาเย็น ก็เป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ยามเช้าที่ดีไม่แพ้กัน
สำหรับมื้ออื่นห้องอาหารแห่งนี้ก็มีหลากหลายเมนู มีอาหารไทย อย่างแกงส้มใต้ ผัดกะเพรา ซึ่งเรารีเควสได้เลยว่าจะเอารสชาติเผ็ดหรือไม่เผ็ด
อีกจุดไดนิ่งสำหรับชอบดริ้ง “Pool Bar” บริการเครื่องดื่มนานาชนิด ที่เสิร์ฟมาในแก้วรูปลักษณ์สารพัดสัตว์ทะเล ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องทะเล ว่ายน้ำไปจิ๊บเครื่องดื่มชื่นใจคือฟิน
ขณะที่สายแอลกฮอลล์ต้องไม่พลาดกับการไปเปิดประสบการณ์ดื่ม “The Gin Run” บาร์สุดหรูนำเสนอเมนูเครื่องดื่มอีลิกเซอร์ที่มีส่วนผสมจากโฮมเมดจินกว่า 35 รสชาติ
อาทิ ผักชี รสพริก รสวาซาบิ ดอกไม้ สมุนไพรไทย ซึ่งทีมมิกซ์โซโลจิสต์จะนำจินเหล่านี้มาอินฟิ้วส์สรรค์สร้างค็อกเทลกว่า 40 เมนูให้เลือกลิ้มลองด้วยเทคนิคล้ำสมัย
มาพักผ่อนที่นี่ได้ทั้งประสบการณ์ดีๆครบทุกสัมผัส กิน ดื่ม เที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง ชาร์จพลังชีวิตในแบบเลอค่า ก่อนกลับไปใช้ชีวิตวุ่นวายในแบบวิถีชาวกรุงกันต่อไป
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,889 วันที่ 21 - 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566