“เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” โชว์ความสำเร็จปี 66 กวาดรายได้ 8,551 ล้านบาท กำไรทะลุพันล้านบาท เติบโต 313% ประกาศแผนรุกปี 67 เดินหน้าแนวคิด More Than Cinema รุกปั้น 2 ธุรกิจใหม่ “Alternative Content Business” กับการชมคอนเสิร์ต K-Pop, Live Streaming Musical Show, การถ่ายทอดสดกีฬา งานประกาศผลรางวัลระดับโลก และ “Event Business” หลังองค์กรภาครัฐและเอกชนแห่จองพื้นที่จัดงานเปิดตัวสินค้า ประชุมสัมมนา Fan Meeting ยาวต่อเนื่อง
ปี 2566 ถือเป็นปีทองของอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ไทยที่กลับมาเติบโตแบบก้าวกระโดด ปัจจัยหลักมาจากการขับเคลื่อนของผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ที่พบว่า ในปีที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้รวม 8,551 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 34% มีกำไรสุทธิ 1,042 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 313% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 จากแรงหนุนของกระแส ‘หนังไทยฟีเวอร์’ ในช่วงไตรมาส 4 ที่สามารถทำรายได้มหาศาลจาก 3 ภาพยนตร์ไทยมาแรงแห่งปี ได้แก่ ‘สัปเหร่อ’ ทำรายได้กว่า 700 ล้านบาท ‘ธี่หยด’ กว่า 500 ล้านบาทและ ‘4 Kings ภาค 2’ กว่า 240 ล้านบาท
ขับเคลื่อนกลยุทธ์ More Than Cinema
อีกหนึ่งความสำเร็จของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” คือ การเดินหน้าธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้าง Ecosystem ที่แข็งแรง นอกจากธุรกิจหลัก คือโรงภาพยนตร์และป๊อปคอร์นแล้ว ยังมีอีก 2 ธุรกิจที่มีส่วนสำคัญที่ทำให้เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีผลประกอบการที่ดี คือ New Business ได้แก่ Alternative Content Business และ Event Business ที่จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2567 ภายใต้ Vision & Mission 2024 ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการเป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ More Than Cinema
ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้จึงมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ผ่าน New Business เสริมแกร่งธุรกิจกับ 2 แกนหลัก ที่มุ่งเน้นผสานจุดแข็งที่มีอยู่ เข้ากับเทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่ มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ และเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
Alternative Content เติมเต็มความบันเทิงที่หลากหลาย
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ นำเสนอ Alternative Content คอนเทนต์ทางเลือกที่ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์เท่านั้น แต่ Alternative Content จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่
1. Animation ภาพยนตร์ในรูปแบบแอนิเมชั่น เช่น Slamdunk ,Resident Evil
2. Concert K-Pop และ International คอนเสิร์ตจากเกาหลี และจากต่างประเทศ เช่น BTS ,Taylor Swift ,Beyoncé, Billie Eilish.
3. Live Streaming Musical Show ถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตจากต่างประเทศ เช่น Metallica ,TXT Sweet Mirage ,Boy George
4. Live Viewing Event ถ่ายทอดสดกีฬา และงานประกาศรางวัลระดับโลก ร่วมกับ True Visions เช่น Superbowl ,NBA ,FA Cup ,Oscars
ซึ่งคอนเทนต์ทางเลือกเหล่านี้ มุ่งสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่และพิเศษกว่าการดูผ่านหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ตอบโจทย์ความสนใจที่หลากหลายของ Gen Z ยังรวมถึงการได้มีส่วนร่วมและเชื่อมต่อกับผู้อื่นเกิดเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พูดคุย และสร้างประสบการณ์ร่วมกันเห็นได้จากกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักเรียน นักศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มแฟนคลับที่ชื่นชอบศิลปินเกาหลี K-Pop หรือคอนเสิร์ตของศิลปินสากลอื่น ๆ ซึ่งประสบการณ์การชม Alternative Content โดยเฉพาะ Concert ในระบบ IMAX จอยักษ์ เสียงกระหึ่มทั่วโรง และระบบ ScreenX ฉายแบบ 3 จอ 3 ทิศทาง จะให้ความรู้สึกเสมือนกำลังอยู่ในคอนเสิร์ตจริงๆ ซึ่งจะมีเฉพาะในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เท่านั้น
ส่งผลให้ในปี 2566 รายได้ของ Alternative Content Business เติบโตขึ้นมากถึง 300% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยร่วมกับพันธมิตรหลัก ๆ จากประเทศ อังกฤษ , ฝรั่งเศส ,แคนนาดา (IMAX) ญี่ปุ่น ,เกาหลี และ สิงคโปร์ ขณะที่ในปี 2567 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ฯ ปักหมุดส่งมอบความพิเศษของคอนเทนต์ทางเลือกที่ Exclusive ฉายเฉพาะเครือเมเจอร์ฯ มาให้ติดตามกันต่อไป
Event พื้นที่จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ
ในปีที่ผ่านมาเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ประสบความสำเร็จในกลุ่ม Event Business เป็นอย่างมาก เห็นได้จากพันธมิตรชั้นนำทั้งองค์กรภาครัฐ เอกชน ตลอดจนแบรนด์ต่างๆ มากมาย ที่ให้ความเชื่อมั่น ไว้วางใจ ในการจัดกิจกรรมการตลาด และใช้บริการพื้นที่ของโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เพื่อจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ครบทุกมิติ อาทิ การจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่, โครงการใหม่, การจัดงานประชุมสัมมนา, Workshop, TalkShow, การจัดประชุม Live Conference, Fan Meeting, การแข่งขัน E-Sports, มินิคอนเสิร์ต, การประกวด, การประกาศผลรางวัล เป็นต้น ซึ่งสามารถตอบโจทย์ไลฟ์ไตล์คนรุ่นใหม่ และกลุ่มเป้าหมายที่พันธมิตรต้องการได้อย่างแท้จริง
สำหรับในปี 2567 นี้กระแสการความนิยมในการจัด Events ภายในโรงภาพยนตร์ยังคงมีต่อเนื่อง เห็นได้จากยอดจองพื้นที่ต่อเนื่องยาวตลอดทั้งปี ทำให้เชื่อว่า Event Business ในปีนี้จะเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกับปีก่อน สอดรับกับตัวเลขการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาของนีลเส็น ประเทศไทย ที่พบว่า ในไตรมาส 1 ปี 2567 มีการใช้จ่ายเม็ดเงินโฆษณาไปแล้ว 27,721 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการใช้จ่ายเงินโฆษณาในสื่อโรงภาพยนตร์ (Cinema) 731 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 12% มีการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากสื่ออินเตอร์เน็ต เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
Alternative Content และ Event Business จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่พันธมิตร องค์กรต่างๆทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ให้ความสนใจในการทำกิจกรรมทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่, คอนเสิร์ต K-Pop, Fan Meeting ชมละครหรือซีรี่ย์ รวมถึงการถ่ายทอดสดกีฬา ฯลฯ ที่สามารถร่วมกันรังสรรค์กิจกรรมการตลาดแบบ 360 องศา เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกเพศ ทุกวัย ได้อย่างเต็มรูปแบบ และจำนวนสาขาที่มากถึง 184 สาขา 856 โรงภาพยนตร์ ครอบคลุม 63 จังหวัดทั่วประเทศ คือสิ่งที่แบรนด์จะได้ประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง ในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น