ลองขับ“เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ”จ่าย 23 ล้านแลกคฤหาสน์เคลื่อนที่

ฟลายอิ้ง สเปอร์ โฉมใหม่ (All-new Bentley Flying Spur) เปิดตัวในปีที่ “เบนท์ลีย์” อายุครบ 100 ปีพอดี เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ซึ่งโรงงานเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ ได้การยอมรับเรื่องฝีมือช่าง งานประกอบที่ประณีต และวัสดุที่นำมาใช้สุดพรีเมียมเลือกได้ ถือเป็นความหรูในเครือโฟล์คสวาเกน ที่เอาไว้เชิดหน้าชูตาต่อยอดโปรดักต์ให้ครบทุกเซ็กเมนต์ (ส่วนบีเอ็มดับเบิลยูมี “โรลส์-รอยซ์”) แน่นอนว่าแนวทางนี้ช่วยควบคุมต้นทุน ด้วยการใช้พื้นฐานการพัฒนาหรือแบ่งปันชิ้นส่วนหลายอย่างร่วมกับรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆในเครือ

ฟลายอิ้ง สเปอร์ โฉมใหม่ ซีดาน 4 ประตู เป็นรถที่แชร์พื้นฐานการพัฒนากับคอนติเนนทัล จีที (คูเป้) และปอร์เช่ พานาเมร่า โดยใช้ความเก่งของเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น การขึ้นรูปโครงสร้างตัวถัง แชสซีส์อะลูมิเนียม (เป็นส่วนผสมหลักถึง 90%) เครื่องยนต์ 12 สูบ วางแบบตัว W (กินพื้นที่ในห้องเครื่องน้อยกว่า 12 สูบแบบ V) เกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีดของ ZF 8 (ปอร์เช่เรียก PDK)

โฉมใหม่ เจเนอเรชันที่ 3 ประเดิมด้วยเครื่องยนต์ W12 ขนาด 6.0 ลิตร ต่อไปจะมีรุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตร และปลั๊ก-อินไฮบริดตามมา (เบนท์ลีย์ ยังประกาศว่าภายในปี 2025 จะมีรถสักรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า100% ทำตลาด)

ความสำเร็จในการพัฒนาซีดานหรูรุ่นนี้ ไล่ตั้งแต่ขยายระยะฐานล้อ 130 มม.เป็น 3,194 มม. การลดนํ้าหนักลงไปได้ 140 กิโลกรัม เป็นผลจากแชสซีส์อะลูมิเนียม ส่วนช่วงล่างแอร์สปริงแบบ Three Chamber เพิ่มปริมาณลม 60% เมื่อเทียบกับโฉมเก่า พร้อมเหล็กกันโคลงควบคุมการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า 48 โวลต์ ช่วยลดอาการโยนตัวของรถ และของเล่นใหม่อย่างระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง ทั้งหมดปรับปรุงเพื่อรักษาเสถียรภาพการขับขี่เมื่อใช้ความเร็วสูงตามสไตล์รถแกรนด์ทัวริ่ง และนุ่มสบายหากใช้งานปกติ

ฟลายอิ้ง สเปอร์ เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ในรุ่นเก่าส่งกำลังไปล้อหน้า/หลัง ในอัตราส่วน 40/60 แต่โฉมใหม่สามารถส่งกำลังไปล้อหลังได้ 100% และแปรผันสัดส่วนไปยังล้อหน้าตามสภาพการขับขี่

อย่างไรก็ตาม หากกังวลว่าจะขับยาก หรือเลือกไม่ถูกว่าเซตอย่างไรให้เหมาะสม ทั้งระบบกันสะเทือน การควบคุม และการกระจายกำลังลงสู่ล้อ ค่ายรถหรูจากอังกฤษเขามีทางลัด ด้วยระบบอัจฉริยะในโหมด B (Bentley) ถ้าคุณเลือกโหมดนี้ รถจะคิดและจัดการทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุด ทั้ง ช่วงล่างและการควบคุม

แม้ตัวรถจะยาว 5.3 เมตร กว้างเกือบ 2 เมตร คล้ายๆอยู่ในบ้านเคลื่อนที่ แต่ประโยชน์ของระบบเลี้ยวทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้การขับบนถนนแคบๆ การจราจรพลุกผล่านที่โมนาโก ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ (ประเทศมีพื้นที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร) รถสามารถลัดเลาะ เปลี่ยนเลน มุดเข้า-ออกจากวงเวียน ได้คล่องตัวพอสมควร โดยล้อหลังจะช่วยเลี้ยวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า ในการขับความเร็วตํ่า ส่งผลให้รถควบคุมง่ายขึ้นและรัศมีวงเลี้ยวแคบลง ในทางกลับกันถ้าใช้ความเร็วสูงในโค้ง ล้อหลังจะปรับองศาไปในทางเดียวกับล้อหน้า เพื่อความเฉียบคมมากที่สุด

เครื่องยนต์ W12 สูบ ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ (Twin-scroll Turbo 2 ชุด) ให้กำลังสูงสุด 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 900 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. ทำได้ในเกียร์ 6 ส่วนเกียร์ 7 และ 8 เอาไว้วิ่งทางไกลยาวๆ ช่วยลดรอบเครื่องยนต์และกินนํ้ามันน้อยลง อัตราเร่งมาเนียนๆ แบบสุภาพชน นำพารถนํ้าหนัก 2,437 กก.พุ่งไปข้างหน้าได้แบบไม่กระโตกกระตาก

ฟลายอิ้ง สเปอร์ ออพชันมาตรฐานมากับล้ออัลลอย 21 นิ้วประกบยาง พิเรลลี่ P Zero ขนาด 265/40 ZR21 ซึ่งการขับและนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง รถเก็บเสียงลมปะทะ และเสียงยางบดพื้นถนนได้เงียบกริบ

การออกแบบภายในยกชุดมาจากคอนติเนนทัล จีที แต่เหมือนคอนโซลกลางจะถูกกดให้ตํ่าลงกว่าเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความโปร่ง (ไม่ให้ดูสปอร์ตมากเกินไป) ส่วนหนังแท้ที่ใช้ตกแต่งลูกค้าเลือกได้ 15 สี หรือจะเอาอารมณ์แบบทูโทนให้ตัดกันเท่ๆก็ได้

แผงแดชบอร์ดมีหน้าจอแสดงผลหลักขนาด 12.3 นิ้ว แบบพลิกกลับได้ (Rotating Dispaly) โดยด้านหนึ่งจะเป็นจอดิจิตัลแสดงค่าต่างๆ ของรถ เช่น ระบบนำทาง เครื่องเสียง โทรศัพท์ แต่อีกด้านหนึ่ง (เมื่อพลิกกลับ) จะโชว์แผงลายไม้สวยๆ ประดับด้วยวงเรือน นาฬิกา เข็มทิศ และ อุณหภูมิภายนอก

สวรรค์จริงๆ ของรถคันนี้ ยังอยู่ที่การนั่งผู้โดยสารด้านหลังครับ เบาะรองรับสรีระยอดเยี่ยม พร้อมสัมผัสที่ผ่อนคลาย เหมือนโซฟาชั้นดี ที่ไม่นุ่มหรือนั่งแล้วตัวจมเกินไป แน่นอนว่าเหมือนรุ่นก่อนคือมาพร้อมระบบนวด ที่เลือกความหนักเบา และการเน้นให้กดจุดตรงไหนเป็นพิเศษ แค่เลือกลีลาการนวดการสนุกแล้ว ทั้งยังมีตู้เย็นซ้อนอยู่ด้านหลังเบาะนั่ง เมื่อเปิดที่พักแขนตรงกลางลงมา คุณจะได้เห็นนํ้าแร่ “เอเวียง” แช่เย็นอยู่ 2 ขวด

การนั่งเป็นเจ้านายด้านหลัง สามารถควบคุมการทำงานของระบบนวด แสงไฟ แอร์ ผ่านรีโมตแบบทัชสกรีนที่ดึงออกมาจากคอนโซลกลางตำแหน่งเหนือช่องแอร์หลังได้ ขณะที่เบาะนั่งปรับองศาให้เอียงนอนได้ระดับหนึ่ง พื้นที่กว้างขวาง ยืดแข้งขาได้สบายแบบไม่ติดเบาะคู่หน้า

....รวมๆ แล้ว ผมชอบสิ่งบรรณาการใน “ฟลายอิ้ง สเปอร์ โฉมใหม่” ฟังก์ชันอำนวยความสะดวก นั่ง-นอนสบายราวกับอยู่ในล็อบบี้โรงแรม 6 ดาว หรือฟังเพลงเพลิดเพลินกับชุดโฮมเธียเตอร์ราคาแพง ถ้ามีโอกาสได้สัมผัสอีกครั้ง ผมขอกระโดดนั่งเบาะหลังก่อนเลย

รวบรัดตัดความ... โอ่อ่าหรูหราราวกับขับคฤหาสน์ เป้าหมายของ “เบนท์ลีย์” คือไม่ยอมเสียคุณค่าของแบรนด์ หรือลดทอนบุคลิกด้านใดด้านหนึ่งไป ด้วยวัสดุและออพชันระดับไฮเอนด์ พร้อมความละเอียดในงานประกอบ ขณะที่ระบบขับเคลื่อน โดยเฉพาะขุมพลังหากวัดประสิทธิผลก็คือซูเปอร์คาร์ดีๆ นี่เอง ถือเป็นค่ายรถยนต์ที่ผสานความอลังการกับสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างกลมกล่อม (จะยิ่งดีถ้ามีถนนกว้างๆ ระยะไกลๆ ให้ขับแบบแกรนด์ทัวริ่ง) เมืองไทยโดย “เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส” ตั้งใจขายราคา 22.9 ล้านบาท จองวันนี้รับรถกลางปี 2563

 

คอลัมน์เทสต์ไดร์ฟ

โดย : กรกิต กสิคุณ

หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,515 วันที่ 20-23 ตุลาคม 2562