นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้มีแผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการทำตลาดเชิงรุก เพื่อให้แบรนด์อาวดี้เข้าไปนั่งอยู่ในใจลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้คอนเซปต์ “Attractive and Affordable” ที่จะดำเนินกลยุทธ์เริ่มตั้งแต่การมีรถที่โดนใจลูกค้า พร้อมจัดออฟชันที่ตอบโจทย์ ที่สำคัญราคาจับต้องได้
ล่าสุดได้เปิดตัว 2 รุ่นใหม่ Q7 ใหม่ ที่มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ Q7 45 TDI quattro S line ราคา 5.299 ล้านบาท และ Q7 45 TDI quattro ราคา 4.849 ล้านบาท และยังเปิดตัว The New A6 ที่ปรับโฉมให้มีความสปอร์ต หรูหราและทันสมัยมากขึ้น ในราคาคุ้มค่า โดยในรุ่น Sedan คือ A6 40 TFSI S line ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ราคา 3.399 ล้านบาท และ A6 Avant 40 TFSI S line ในราคาเท่ากันที่ 3.399 ล้านบาท
สำหรับThe New Audi Q7 ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบชาร์จ 6 สูบ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 6.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 225 กม./ชม. มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี คือ สี Glacier White, Floret Silver, Orca Black, Samurai Grey, Daytona Grey และ Navarra Blue
จุดเด่นของ Audi Q7 ใหม่ คือ กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวรูปทรง 8 เหลี่ยม ได้รับการออกแบบให้กว้างมากกว่ารุ่นเดิม และทำให้ภาพรวมตัวรถดูมีความกว้างมากขึ้น ภายในช่องกระจังหน้า 8 เหลี่ยม ติดตั้งซี่โลหะแนวตั้ง 6 ซี่ ช่วยทำให้ดูดุดัน
Audi Q7 ใหม่ มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบถุงลม Adaptive air suspension ที่สามารถปรับเพิ่มระดับความสูงได้สูงสุด 50 มม. ไฟหน้าแบบ Matrix LED โดยที่ไฟ LED แต่ละดวงจะทำงานเป็นอิสระแยกจากกัน ทำให้สามารถเลือกจุดตกกระทบของแสงได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ ขณะที่ไฟเลี้ยวทั้งหน้าและหลังเป็นแบบไดนามิค
ภายในห้องโดยสาร Audi Q7 ใหม่ มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ แสดงผลและควบคุมแบบสัมผัส (MMI Radio plus) โดยจอด้านบน ขนาด 8.8 นิ้ว Full HD ส่วนจอด้านล่างเป็น Full HD เช่นกัน ขนาด 8.6 นิ้ว ขณะที่ฟังก์ชันการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto โดย Apple CarPlay สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบไร้สาย Wireless ผ่าน Bluetooth หรือใช้สาย USB
นอกจากนั้นแล้วยังมีไฟเรืองแสงในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนได้ 30 สี ระบบเครื่องเสียงที่มีชื่อเสียงรวมถึง BOSE Premium Sound system แบบ 3 มิติ ที่ติดตั้งอยู่ใน Q7 45 TDI quattro S line
อีกหนึ่งรุ่นใหม่คือ Audi The New A6 ที่เผยโฉมพร้อมกัน 2 รุ่น คือ A6 40 TFSI S line และ A6 Avant 40 TFSI S line โดย The New A6 ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร 4 สูบ และระบบไมลด์ไฮบริดให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร A6 40 TFSI S line ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 7.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 237 กม./ชม.ส่วน A6 Avant 40 TFSI S line อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ 8.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 232 กม./ชม.
จุดเด่นของ A6 ใหม่ พร้อมชุดแต่ง S line ทั้งกันชนหน้า กันชนหลัง ช่องดักอากาศที่ผลิตจากอลูมิเนียม สเกิร์ตข้าง อุปกรณ์ควบคุมการไหลเวียนอากาศ (diffuser) ด้านหลัง และปลายท่อไอเสียอลูมิเนียม ไฟหน้าเป็นแบบ Audi Matrix LED เทคโนโลยีที่ช่วยให้การส่องสว่างของไฟหน้ามีความแม่นยำที่สุด และส่องสว่างให้ได้พื้นที่มากที่สุด โดยไม่รบกวนผู้อื่น ไฟเลี้ยวด้านท้ายเป็นแบบไดนามิค ที่การกระพริบของไฟจะไล่จากด้านในสู่ด้านนอก นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องมองหลัง และเซ็นเซอร์ช่วยจอดซึ่งมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสารของ A6 มีรูปแบบ virtual cockpit เน้นแสดงข้อมูลที่ผู้ขับเป็นผู้เลือก เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการขับขี่ เพราะไม่ต้องละสายตาจากถนน ขณะที่มือก็ไม่ปล่อยจากการควบคุมพวงมาลัยแต่อย่างใด ระบบนำทางรูปแบบใหม่ MMI Navigation ติดตั้งมาให้ใน A6 ตอบสนองการสั่งการด้วยระบบสัมผัสรวดเร็ว ให้คุณภาพภาพที่ชัดเจน มาพร้อมทัชกรีน 2 จอแบบ Full HD จอด้านบนขนาด 10.1 นิ้ว และจอด้านล่างขนาด 8.6 นิ้ว เช่น ฟังก์ชันการทำงานรองรับ Apple CarPlay โดยสามารถเชื่อมต่อกับไอโฟนได้ง่ายๆ ทั้งแบบไร้สาย Wireless ผ่าน Bluetooth หรือใช้สาย USB
เพิ่มความสะดวกในการใช้งานภายในห้องโดยสารยามค่ำคืน ด้วยไฟ LED สีขาว ที่เพิ่มการส่องสว่างอย่างเต็มที่ เบาะนั่งแบบสปอร์ต กระชับลำตัว เบาะหรูหราหุ้มหนังแท้ Valcona ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้ง 2 รุ่น
A6 40 TFSI S line มีสีให้เลือก 5 สี คือ Glacier White, Floret Silver, Mythos Black, Daytona Grey และ Firmament Blue ส่วน A6 Avant 40 TFSI S line มีให้เลือก 5 สี คือ Glacier White, Mythos Black, Daytona Grey, Firmament Blue และ Tango Redลูกค้าอาวดี้ที่จองรถใหม่จะได้รับ Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี