ตำนานสปอร์ตคาร์ที่กลับมาคืนชีพอีกครั้ง ภายใต้โครงการความร่วมมือกับ บีเอ็มดับเบิลยู แบรนด์รถหรูจากเยอรมนี โดยปีที่แล้ว เจเนอเรชันที่ 5 ของซูปร้า กับเลย์เอาต์เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ได้รับการพัฒนา และแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการโดย Toyota GAZOO Racing แบรนด์รถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของโตโยต้า ที่ดำเนินงานด้วยหลักปรัชญา “การทดสอบขีดจำกัดของสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุดของรถยนต์ จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราไม่สามารถเห็นได้ในการขับขี่แบบปกติในชีวิตประจำวัน”
สำหรับ Toyota GR Supra 2020 Edition ยังใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร แต่เพิ่มกำลังจาก 340 แรงม้า เป็น 387 แรงม้า (เท่า Z4 M40i) ติดตั้งคํ้าโช้กและปรับช่วงล่างใหม่ หวังเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ลดการบิดของตัวถัง และให้เสถียร ภาพในการเข้าโค้งที่ดียิ่งขึ้น
ภายนอกยังโดดเด่นแตกต่างด้วยคาลิปเปอร์เบรกที่ล้อด้านหน้า สกรีนโลโก้ “Supra” พร้อมล้ออัลลอยสีดำด้านขนาด 19 นิ้ว ส่วนภายในมีสีสีนใหม่คือ ดำ-นํ้าเงิน
Toyota GR Supra ออกแบบภายใต้แนวคิด Condensed Extreme จัดสรรองค์ประกอบและมิติต่างๆ ให้ส่งเสริมสมรรถนะอันโดดเด่นของรถ
ทั้งนี้ Condensed สื่อถึงที่สุดแห่งความสัมพันธ์ของส่วนประกอบต่างๆ ทั้งความยาวของตัวรถ ระยะฐานล้อ ไปจนถึงการวางตำแหน่งของล้อและยาง ส่วน Extreme จะสื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างห้องโดยสาร (ตำแหน่งผู้ขับ) และระยะห่างระหว่างล้อที่ถูกขยายให้กว้างเมื่อเทียบกับ Belt line แนวสันด้านข้างตัวถังที่ถูกกดให้ตํ่าและโป่งนูนออกมามากเป็นพิเศษ
ด้วยแนวคิดดังกล่าวทำให้ห้องโดยสารที่ลงตัวกับตำแหน่งตัวรถที่กดตํ่าและหนักแน่นส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุม และมีเสถียรภาพในระดับสูง
Toyota GR Supra 2020 Edition ราคาขาย 5.199 ล้านบาท มาพร้อมแพ็กเกจให้บริการฟรีเช็กระยะมาตรฐาน ค่าแรง พร้อมเปลี่ยนรายการอะไหล่ตามที่กำหนด จำนวน 5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 ปี หรือ 60,000 กม. เมื่อเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,585 วันที่ 21 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2563