แม้ สแกนเนีย สยาม จะประกาศยุติการผลิตรถบรรทุก Scania ที่โรงงาน จ.สมุทรปราการ ช่วงปลายปีที่แล้ว โดยระบุสาเหตุมาจาก ยอดขายที่ลดลงต่อเนื่อง ซํ้าด้วยสภาพเศรษฐกิจทรุดจากไวรัสโควิด-19 แต่แบรนด์รถเพื่อการพาณิชย์สัญชาติสวีเดน ที่ผ่านการปรับโครงสร้างองค์กร ยังพร้อมนำเข้ารถมาจากยุโรปเพื่อทำตลาดในไทย และลุยธุรกิจบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เตรียมเปิด ศูนย์บริการแห่งใหม่ที่บริษัทสแกนเนีย สยาม ลงทุนด้วยตนเอง ที่จังหวัดสระบุรี ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
“สระบุรีเป็นเหมือนประตูสู่ภาคอีสาน เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่มีลูกค้านิยมใช้บริการเป็นจำนวนมาก ซึ่งห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 100 กิโลเมตร ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะลงทุนเพิ่ม โดยสแกนเนียเป็นผู้บริหารจัดการด้วยตัวเราเอง (Captive Dealer)” นางสตีน่า เฟเกอร์แมน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าว และว่า
Scania ยังคงวางแผนลงทุนในการเพิ่มศักยภาพทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์และงานบริการอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศไทยในปี 2564 จะเป็นปีแห่งการพัฒนาเพื่อช่วยให้ลูกค้าฟื้นตัวได้เร็วที่สุดจากสถานการณ์ยากลำบากหลังจากการระบาดของโควิด -19 อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 สแกนเนียมีส่วนแบ่งการตลาดประเภทรถบรรทุกในประเทศไทยประมาณ 2.5% จากยอดจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก 297 คัน และรถบัสโดยสาร 20% จากยอด 96 คัน
“การระบาดของไวรัสส่งผลกระทบกับทุกคนในทุกอุตสาหกรรม แม้แต่สแกนเนียสยามก็ไม่มีข้อยกเว้น โดยบริษัทฯได้หยุดดำเนินการผลิตที่โรงงานประกอบรถบรรทุกในเขตชานเมืองฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้วและปรับกลยุทธ์ใหม่เริ่มนำเข้ารถบรรทุก ส่งตรงจากระบบการผลิตในสวีเดน ก่อนที่จะนำเข้ามาในประเทศไทย ด้วยระบบการผลิตทั่วโลกของสแกนเนีย ทำให้มั่นใจได้ว่ารถของเราจะมีคุณภาพเหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดคือ รถบรรทุกสแกนเนียที่ผลิตในสวีเดน จะมีราคาจำหน่ายเทียบเท่ากับการผลิตในประเทศไทย” นางสตีน่า เฟเกอร์แมน กล่าว
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,653 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564