MGC ASIA หวังกวาดรถยนต์แบรนด์ใหม่เข้ามาอยู่ในพอร์ตเพิ่มเติม เล็งรถที่อยู่ในกลุ่ม Stellantis (เฟียต ไครส์เลอร์ ควบรวมกับพีเอสเอ) เผยแผนปี 2564 เปิดโชว์รูม-ศูนย์บริการใหม่ 5 แห่ง ตั้งเป้าโกยรายได้รวม 2.3 หมื่นล้านบาท
MGC ASIA เอ็มจีซี-เอเชีย เจ้าพ่อธุรกิจค้าปลีกรถยนต์เมืองไทย ปัจจุบันเป็นดีลเลอร์ BMW Mini Honda และมอเตอร์ไซค์ Harley Davidson และธุรกิจรถยนต์ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการอย่าง Peugeot Maserati Aston Martin และ Rolls Royce โดยปี 2563 ทำยอดขายรวมกัน 10,078 คัน ลดลง 13.5% เมื่อเทียบกับปี 2562 แม้จะได้แบรนด์ใหม่ Peugeot มาเสริมทัพและขายเต็มปี แต่วิกฤติโควิด-19 ยังกระทบกับธุรกิจพอสมควร
สำหรับ Peugeot เป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ของ Stellantis กลุ่มยานยนต์ใหม่ที่เกิดจาก FCA เฟียต ไครส์เลอร์ ควบรวมกับ PSA เปอโยต์ ซีตรอง ของฝรั่งเศส ซึ่งการทำตลาดในไทยมีเอสยูวี 2 รุ่นคือ 3008 และ 5008 ปีที่แล้วปิดตัวเลขได้ 435 คัน ส่วนปีนี้จะมีครอสโอเวอร์รุ่นเล็ก 2008 เข้ามาเสริมทัพอีกหนึ่งรุ่น
ส่วน Maserati แบรนด์หรูจากอิตาลี อยู่ในกลุ่ม Stellantis เช่นกัน ล่าสุดเปิดตัวซูเปอร์คาร์ Maserati MC20 ราคาเริ่มต้น 21.5 ล้านบาท ปีนี้ได้โควต้านำเข้ามาขายในไทย เพียง 3 คัน แต่โดนจองเกลี้ยง โดยรถพร้อมส่งมอบภายในปลายปีนี้ (โรงงานโมเดนา, อิตาลี เริ่มผลิตกลางปี 2564)
สำหรับ Maserati MC20 ตัวถังคูเป้ วางเครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 630 แรงม้า ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 730 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000-5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 2.9 วินาที ทั้งนี้ ค่ายตรีศูล มีแผนที่จะทำขุมพลังไฟฟ้า 100% สำหรับซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ด้วย
Peugeot และ Maserati เป็นสองแบรนด์ในกลุ่ม Stellantis ที่ MGC ASIA ถืออยู่ในมือ ซึ่งแม่ทัพใหญ่“ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย ยอมรับว่า เล็งทำตลาดรถยนต์แบรนด์ใหม่ที่อยู่ในกลุ่มนี้เพิ่มเติม
“เรามีโอกาสทำแบรนด์เพิ่มเติมในกลุ่ม Stellantis จากปัจจุบันที่เรามีอยู่ 2 แบรนด์ แต่การเพิ่มแบรนด์รถยนต์ใหม่ยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้ โดยที่ผ่านมามีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ติดต่อเข้ามาหาเราเยอะแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ และแน่นอนว่าเราจะไม่ทำอะไร ที่ไปทับซ้อนกับสิ่งที่เป็นคู่ค้ากับเราอยู่” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว
ปัจจุบันทุก แบรนด์รถยนต์ MGC ASIA ดูแล รวมกันมี 66 โชว์รูม ใน 21 โลเคชั่น และศูนย์บริการอีก 37 แห่ง(ไม่รวม MMS Bosch Car Servic และ Sixt) และคาดว่าแบรนด์ใหม่ในเครือ Stellantis ที่มีโอกาสเข้ามาอยู่ในมือเอ็มจีซี-เอเชีย มากที่สุด คือ ซีตรอง และ ดีเอส
ดร.สัณหวุฒิ กล่าวว่า จากนี้ไปธุรกิจรถยนต์จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและแรง ดังนั้นถ้าไม่เตรียมตัวและเปลี่ยนแปลง จะอยู่ยาก และปีนี้ เอ็มจีซี-เอเชีย ยังเดินหน้าวางแผนต่อยอดธุรกิจอย่างรัดกุม พร้อมรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง ดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นสร้างประสบการณ์ผ่านออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อความพึงพอใจสูงสุด สำหรับลูกค้าทุกๆ ราย
บริษัทยังจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล หรือ บิ๊กดาต้า (Data Excellence Center) เพื่อดูแลฐานลูกค้ากว่า 550,000 ราย (ที่มีความเคลื่อนไหวในการเข้าใช้บริการกับเอ็มจีซี-เอเชีย ) พร้อมยกระดับการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด รวมถึงการบริการที่แม่นยำ รวดเร็ว และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนในทุกเซกเมนท์
“เราเริ่มดำเนินการเรื่อง บิ๊กดาต้ามา 2 ปีแล้ว โดยลงทุนในส่วนของคลาวน์ กว่า 100 ล้านบาท สามารถ วิเคราะห์ได้ว่าลูกค้าใช้รถยนต์อย่างไร เพื่อนำข้อมูลมานำเสนอโปรดักต์ในธุรกิจของเราให้ตรงกับความต้องการได้”
จากทุกแผนงาน MGC ASIA ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2564 ไว้ 23,000 ล้านบาท โต 10% เมื่อเทียบกับปี 2563
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรลส์-รอยช์ โกสต์ มือสอง ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 20 ล้านบาท
ส่องรถใหม่ - โปรโมชันเด็ดจากค่าย MGC-ASIA
เอ็มจีซี-เอเชีย เดินสายโรดโชว์ภาคอีสาน - ใต้
เอ็มจีซี-เอเชีย ปลุกตลาดภาคใต้จัดอีเวนต์ขายรถ
เอ็มจีซี-เอเชีย กางแนวรุก ปี63
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,663 วันที่ 21 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2564