BMW บีเอ็มดับเบิลยู ยึดตัวเลขของสภาอุตสาหกรรม มั่นใจเป็นอันดับหนึ่งด้านยอดขายรถหรูในไตรมาสแรกปี 2564 หลังจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ส่งข่าวไปก่อนหน้าว่า ตำแหน่งนี้เป็นของตนเอง
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย รายงานยอดขายไตรมาสแรก ปี 2564 ว่าทำได้ 2,773 คัน เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ในจำนวนนี้แบ่งเป็น ยอดขายรถ BMW 2,533 คัน และ มินิ อีก 240 คัน (ไม่รวมมอเตอร์ไซค์ 281 คัน)
นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า เราสร้างความสำเร็จอีกครั้ง ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของตลาดยานยนต์พรีเมียมไทย ส่งท้ายไตรมาสแรกด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในเซกเมนต์พรีเมียมที่ 48.7%
“ภายในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา เราส่งรถยนต์กว่าสิบรุ่นสู่ตลาดประเทศไทย ครอบคลุมทั้งระบบขับเคลื่อนแบบดีเซล เบนซิน ปลั๊กอินไฮบริด และระบบไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ BEV ตลอดจนรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงตระกูล M” นายบารากา กล่าว
ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู อ้างอิงข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ที่เผยแพร่โดยโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ซึ่งข้อมูลชุดนี้ เมอร์เซเดส เบนซ์ ทำยอดขายได้ 2,470 คัน เพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้ไม่ตรงกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย รายงานเมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ว่าตนเองครองแชมป์ตลาดรถยนต์หรูในไตรมาสแรก ด้วยจำนวนรถยนต์จดทะเบียนรวม 3,178 คัน
นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ลักชัวรีในไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในเรื่องนวัตกรรม บริการที่ยอดเยี่ยม ตลอดจนวิสัยทัศน์ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ รวมถึงเครือข่ายดิจิทัลของเทคโนโลยีแห่งอนาคต
ทั้งหมดนี้ ส่งผลให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ มียอดขายรถยนต์ที่จดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบกแล้ว 3,178 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มรถยนต์ลักชัวรี