ลุ้น "โตโยต้า รีโว่ ฟอร์จูนเนอร์ ไฮบริด" ลุยตลาด ปี 2565

ตามที่ “ฐานยานยนต์” เคยรายงานตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 ว่า โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีแผนทำตลาดปิกอัพ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ไฮบริด และ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไฮบริด ตามนโยบายบริษัทแม่ที่ต้องการใส่เทคโนโลยีไฮบริดในรถยนต์ทุกรุ่น (ทั้งเก๋งและปิกอัพ)

กระแสข่าววงในของโตโยต้ายืนยันกับ ฐานยานยนต์ ว่า โตโยต้า กำลังพัฒนาปิกอัพ โตโยต้า รีโว่ ไฮบริด จริง แต่เป็นระบบไมลด์ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อก GD ที่ทำตลาดในปัจจุบัน เสริมการทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า

ประเด็นนี้ ยังเคยเปิดเผยโดย ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ในการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ช่วงเปิดตัวโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ไมเนอร์เชนจ์ กลางปี 2563 ว่า มีความเป็นไปได้ที่โตโยต้าจะทำ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ไฮบริด แต่ช่วงเวลาเปิดตัวยังไม่สามารถเปิดเผยได้

“แนวทางของโตโยต้าคือ การพัฒนารถหรือเลือกระบบขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับตลาด โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งเรามีหลายทางเลือก และวางแผนกันล่วงหน้าหลายปี ส่วนปิกอัพไฮลักซ์ จะเป็นไฮบริด แบบไหน (ฟูลไฮบริด หรือ ไมลด์ไฮบริด) คงต้องดูความสามารถในการเข้าถึงได้ของลูกค้าด้วย” ดร.จุฬชาติ กล่าว

แม้ ดร.จุฬชาติ ไม่เฉลยตรงๆ แต่การแย้มข้อมูล “ต้องดูความสามารถในการเข้าถึงได้ของลูกค้า” นั่นหมายความว่า โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ไฮบริด ราคาต้องไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ ICE ในปัจจุบัน ดังนั้น การใช้เครื่องยนต์ดีเซลบล็อก 2GD ขนาด 2.4 ลิตร หรือ 1GD 2.8 ลิตร พร้อมสนับสนุนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แบบไมลด์ไฮบริด จึงมีความเหมาะสมกับปิกอัพ มากกว่าระบบฟูลไฮบริดเครื่องยนต์เบนซิน

ขณะเดียวกัน การทำปิกอัพ ไฮบริด หรือ พีพีวี ไฮบริด ที่มีค่าไอเสียตํ่ากว่า 175 กรัมต่อกิโลเมตร ยังได้ภาษีสรรพสามิตลดลงอีก 2% อย่างโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ รอคโค่ ตัวถังดับเบิลแค็บ เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (ราคา 1,210,500 บาท) ปล่อยไอเสีย 195 กรัม/กม. เสียภาษีสรรพสามิต 10% แต่รองรับนํ้ามันดีเซล B20 ภาษีสรรพสามิตลดลงเหลือ 9% ขณะที่รุ่นไฮบริดหากทำไอเสียตํ่ากว่า 175 กรัมต่อกิโลเมตร ภาษีสรรพสามิตจะอยู่ในพิกัด 8%

เมื่อพิจารณาสิทธิประโยชน์ด้านภาษีแล้ว อาจจะไม่จูงใจบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในการทำปิกอัพไฮบริด มากนัก (เพราะปิกอัพได้ภาษีสรรพสามิตตํ่าอยู่แล้ว) แต่สำหรับโตโยต้า ภาพลักษณ์การเป็นผู้นำเทคโนโลยไฮบริดถือเป็นเรื่องสำคัญ อันสอดคล้องกับนโยบายระดับโลกที่รถยนต์ทุกรุ่นที่ทำตลาดในปี 2573 ต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทุกโมเดล (ไฮบริด และอีวี)

ถึงวันนี้ทุกกระแสข่าว ยืนยันตรงกันว่า โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ จะมีขุมพลังไมลด์ไฮบริด ที่อิงกับเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นปัจจุบันทำตลาดแน่ และมีโอกาสได้เห็นภายในปี 2565 ที่สำคัญด้วยพื้นการการพัฒนาเดียวกันกับ 2 พี่น้อง ทำให้ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ และ โตโยต้า อินโนว่า จะมีรุ่นไมลด์ไฮบริดเช่นกัน ซึ่งจะมีไทยและอินโดนีเซียเป็นฐานการผลิตสำคัญส่งออกไป ประเทศในอาเซียน และ ออสเตรเลีย

ปัจจุบันโตโยต้า มีรถยนต์ไฟฟ้าทำตลาดทั่วโลกรวม 55 โมเดล แบ่งเป็นรถไฮบริด 45 รุ่น ปลั๊ก-อินไฮบริด 4 รุ่น อีวี 4 รุ่น และ ฟิวเซลล์ 2 รุ่น (นับถึงปลายปี 2563) และมีแผนเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้าเป็น 70 โมเดลในปี 2568

สำหรับโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ที่ทำตลาดในไทยมีประมาณ 40 รุ่นย่อย แต่สถานการณ์หลังผ่าน 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.64) ขายไป 38,633 คัน ตามหลัง อีซูซุ ดีแมคซ์ ที่ทำได้ 51,947 คัน ส่วนพีพีวี โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 8,517 คัน และ อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ 7,107 คัน

ส่วนโปรโมชันเดือนพฤษภาคม 2564 ของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ คือ ทุกรุ่น รับดอกเบี้ย 1.99% (เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน) ทั้งยังเลื่อนระยะเวลาการผ่อนชำระงวดแรกออกไป 90 วัน นับจากวันที่สัญญาเริ่มต้น (ดาวน์เริ่มต้น 15%) และรับสิทธิ์การขยายการรับประกันคุณภาพต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 150,000 กม. แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน พร้อมการตรวจสอบฟรีตามระยะ 100,000 กม. 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,680 วันที่ 20 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564