นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดรถยนต์เดือนมิถุนายนมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากความกังวลต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ( COVID-19 ) มีแนวโน้มรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยการแพร่ระบาดในระลอกนี้มีความรุนแรงมากกว่าระลอกก่อน รวมถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ต้องชะลอ หรือเลื่อนกำหนดการออกไป
ทั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวม และทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดียังมีความหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะฟื้นตัวดีขึ้นจากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ควบคู่ไปกับการดำเนินการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกให้กับคนไทยครบ 50 ล้านคนภายในสิ้นปี ซึ่งจะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่ตลาดรถยนต์เดือนพฤษภาคม 2564 มีปริมาณการขาย 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% โดยตลาดรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 32.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มี เพิ่มขึ้น 40.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดรถยนต์เติบโตเป็นผลมาจาก ข้อเสนอพิเศษที่หลากหลาย และกิจกรรมส่งเสริมการขายจากค่ายรถยนต์ที่มีการแข่งขันอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง ส่งผลกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
ตลอดจนการจัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของภาครัฐที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น คลายความวิตกกังวล และจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ผนวกกับการทยอยส่งมอบรถที่ลูกค้าจองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่สำคัญอีกประการหนึ่ง
สำหรับยอดขายรถยนต์ เดือนพฤษภาคม 2564 แบ่งออกเป็นดังนี้
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 55,948 คัน เพิ่มขึ้น 38.4%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 15,569 คัน เพิ่มขึ้น 32.7%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 40,379 คัน เพิ่มขึ้น 40.6%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 31,778 คัน เพิ่มขึ้น 37.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,039 คัน
โตโยต้า 2,023 คัน ,อีซูซุ 1,143 คัน ,มิตซูบิชิ 451 คัน ,ฟอร์ด 390 คัน , นิสสัน 32 คัน
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 27,739 คัน เพิ่มขึ้น 34.9%