หลังจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดตัวพร้อมราคา Haval H6 อย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 และได้เปิดพรีบุกกิ้งโดยลูกค้ายังไม่รู้ราคามาก่อนหน้านั้น ซึ่ง “ฐานยานยนต์” เคยรายงานว่า Haval H6 มียอดจองรวมกว่า 6,000 คัน
สำหรับ Haval H6 ขุมพลังไฮบริด แบ่งการทำตลาด 2 รุ่นย่อยคือ ULTRA ราคา 1.249 ล้านบาท และ PRO ราคา 1.149 ล้านบาท ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) แจ้งอย่างเป็นทางการ ว่า ถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 Haval H6 มียอดขาย 320 คัน พร้อมครองส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มคอมแพกต์เอสยูวี 26.5%
นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ยอดขายรวม Haval H6 Hybrid หลังจากการเปิดตัวไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ 320 คัน โดยแบ่งเป็นยอดขายHaval H6 รุ่น ULTRA จำนวน 295 คัน และยอดขายรุ่น PRO อีก 25 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาด 26.5% ในกลุ่มคอมแพกต์เอสยูวีในเดือนกรกฎาคม(1,209 คัน)
“ตั้งแต่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม Haval H6 Hybrid มียอดจองการนัดหมายเพื่อทดสอบรถยนต์มากกว่า 9,000 ราย และเริ่มส่งมอบรถให้กับลูกค้ากลุ่มแรกไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา”
การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เน้นการเป็นผู้นำด้านรถพลังงานไฟฟ้า (xEV Leader) และการนำเสนอประสบการณ์ลูกค้ารูปแบบใหม่ (New User Experience) ผ่านช่องทาง O2O (Online-to-Offline) รวมถึงการสร้างประสบการณ์ทางการตลาดที่แตกต่าง โดยมุ่งเน้นการให้ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง
นอกจากนี้ บริษัท ได้ปรับนโยบายและวิธีการดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับลูกค้า ทั้ง การขยายระยะเวลาของแคมเปญต่างๆ รวมไปถึงการให้บริการถึง หน้าบ้านของลูกค้า หรือ Door-to-Door Service ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งมอบรถ (Door-to-Door Delivery) การทดลองขับ (Door-to-Door Test Drive) การรับและ/หรือส่งรถเพื่อเข้ารับบริการเช็กระยะ (Door-to-Door Pick-up & Delivery on demand) หรือการบริการตรวจเช็กระยะตามตารางบำรุงรักษานอกสถานที่ (Door-to-Door Mobile Service) เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในทุกกระบวนการ
ข้อมูลเพิ่มเติม Haval H6